นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีมีรายงานข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศระบุว่า สหภาพยุโรป (อียู) เสนอมาตรการจำกัดทางการค้าฉบับใหม่กับบริษัทมากกว่า 12 แห่ง ซึ่งมีบริษัทไทย 1 แห่ง เนื่องจากบริษัทเหล่านี้มีพฤติการณ์สนับสนุนการทำสงครามของรัสเซียในยูเครน ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่หากเป็นเรื่องของสหภาพยุโรป เป็นการลงโทษผู้ที่ไปทำการค้าขายกับบางประเทศ
อย่างไรก็ตาม นายปานปรีย์ กล่าวว่า คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร ในส่วนของประเทศไทยยังไม่ได้รับรับรายงาน แต่หากมีประเด็นดังกล่าวจะต้องดูเป็นกรณีไป ซึ่งหากมีสินค้าบางประเภทที่ไม่พึงประสงค์ที่จะให้ไปค้าขายกับบางประเทศ เป็นเรื่องของบริษัทที่ต้องพิจารณา ส่วนของรัฐบาลยังไม่ได้รับการร้องเรียนใดๆ ยืนยันว่าไม่มีผลกระทบกับความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ส่วนข้อสังเกตการชะลอการลงนามเอฟทีเอ นายปานปรีย์ กล่าวว่า ยังไม่มี จากการเดินทางไปอียูและพบกับหลายประเทศ ไม่มีใครพูดเรื่องนี้ หากจะมีก็เป็นเพียงบริษัทที่ยังไม่ได้รับรายงาน และหากมีจริงก็เป็นเรื่องของบริษัท ไม่ใช่เรื่องระดับรัฐบาล
เมื่อถามว่าในการเดินทางไปเยอรมนีได้พูดคุยเรื่องเชงเก้นวีซ่าฟรีหรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ต้องคุยทุกครั้งและคุยหลายประเทศ เพื่อให้ได้รับการเห็นชอบ ซึ่งส่วนใหญ่หลายประเทศเห็นชอบในหลักการ ส่วนรายละเอียดต้องดูอีกที ส่วนคนไทยจะได้ใช้วีซ่าเชงเก้นฟรีในปีนี้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับประเทศในอียูจะเห็นชอบหรือไม่ ทางเราพยายามเต็มที่แล้ว