นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะ เดินทางไปมอบที่ดินของกองทัพให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ ภายใต้โครงการนำร่อง "หนองวัวซอโมเดล" ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี โดยระยะเวลาเพียง 3 เดือนเศษ ถือว่ามีผลสำเร็จตามนโยบายรัฐบาล โดยรัฐบาลและกระทรวงกลาโหมพร้อมแล้วที่จะส่งต่อให้กับประชาชน
สำหรับพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ฝึกของกรมทหารปืนใหญ่ที่ 3 มีเนื้อที่กว่า 40,000 ไร่ เป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ตรวจพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่อยู่ในเขตอันตราย สามารถนำไปให้ประชาชนใช้ประโยชน์ได้กว่า 10,000 ไร่ ล่าสุดได้กำหนดขั้นตอนการพิจารณาจัดให้เช่าตามหลักเกณฑ์ ระเบียบและกฎหมายราชพัสดุเรียบร้อยแล้ว และมีประชาชนยื่นเอกสารแล้วกว่า 500 ราย
นายจิรายุ เปิดเผยว่า ในที่ประชุมสภากลาโหมสัปดาห์ที่ผ่านมา นายสุทิน คลังแสง ในฐานะประธานสภากลาโหม ได้กล่าวขอบคุณสมาชิกสภากลาโหมทุกท่านที่มีช่วยกันผลักดันจนเป็นผลสำเร็จ จากนั้นได้ติดตามความคืบหน้าในโครงการนี้ โดยผู้บัญชาการเหล่าทัพ และหน่วยงานต่างของกระทรวงกลาโหม ได้ขานรับนโยบาย โดยยึดต้นแบบ "หนองวัวซอโมเดล"
ทั้งนี้ ในส่วนของกองบัญชาการกองทัพไทย และกองทัพบก ได้เร่งสำรวจพื้นที่บริเวณตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองการเกษตรฯ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย ใช้พื้นที่อยู่ บริเวณนี้คณะกรรมการพิจารณาแล้วมีพื้นที่ปลอดภัยที่สามารถให้ประชาชนใช้ได้ประมาณ 2,400 ไร่ ซึ่งปัจจุบันสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาญจนบุรีได้มีประกาศผ่อนผันอัตราค่าเช่าค่าธรรมเนียมลดลงแล้ว คาดว่าจะมอบสัญญาเช่าในได้ในต้นเดือนมีนาคมนี้
ส่วนพื้นที่ของกองทัพเรือนั้น พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ขานรับนโยบายของรัฐบาล โดยเร่งให้มีการพิจารณาในพื้นที่ของกองทัพเรือ และที่ราชพัสดุที่กองทัพเรือตั้งอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งพื้นที่นำร่องของกองทัพเรือที่ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ที่เป็นพื้นที่ชุมชนบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้านั้น ฐานทัพเรือกรุงเทพได้ร่วมกับสำนักงานธนารักษ์ลงพื้นที่รังวัดที่ดิน พร้อมสอบสิทธิและรวบรวมคำร้องขอเช่าที่ดินของประชาชนแล้ว ซึ่งตรงนี้มีเนื้อที่ประมาณ 4,000 ไร่ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ไปให้นโยบายมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ เมื่อเดือนมกราคม ที่แหลมฟ้าผ่ามาแล้ว โดยกรมธนารักษ์อยู่ระหว่างกำหนดมาตรการผ่อนผันอัตราค่าเช่าค่าธรรมเนียมให้ลดลงให้สอดรับกับโครงการหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกลาโหมมอบนโยบายให้ทุกกองทัพสำรวจและเร่งรวบรวมข้อมูลที่ดินในการดูแลของกองทัพ โดยล่าสุดมีพื้นที่ปลอดภัยทางการทหารโดยรวมทั้งหมดประมาณ 16,000 ไร่ที่กองทัพจะสามารถให้ประชาชนไปใช้ประโยชน์ตามนโยบายของรัฐบาลได้ และจะเป็นโมเดลสำคัญ ในการแก้ไขปัญหาพื้นที่อื่นๆ ของประเทศไทยในอนาคต
นอกจากนี้ ในส่วนของกองทัพอากาศ โดยมีคณะทำงานเพื่อพิจารณาพื้นที่ของกองทัพอากาศทั่วประเทศตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยพื้นที่แรกที่สามารถดำเนินการได้ก่อนคือพื้นที่ใกล้สนามบินนครพนม ตำบลนาทราย อำเภอเมืองจังหวัดนครพนม โดยสามารถนำไปมอบให้ประชาชนใช้ประโยชน์ได้ประมาณ 520 ไร่ และล่าสุดมีประชาชนขอเข้าทำประโยชน์กว่า 100 ราย ปัจจุบันกองทัพอากาศทำหนังสือให้ความยินยอมไปถึงกรมธนารักษ์ และแจ้งให้กระทรวงกลาโหม ทราบแล้วโดยจะมอบสัญญาเช่าโครงการนี้ในเดือนมีนาคมนี้ และพื้นที่อื่นๆ ในเดือนต่อๆ ไป