xs
xsm
sm
md
lg

เตรียมควักกระเป๋า! กทพ.ปรับค่าผ่านทางพิเศษ "ฉลองรัช-บูรพาวิถี" เริ่ม 1 มี.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมแจ้งว่า การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) มีกำหนดปรับค่าผ่านทางพิเศษฉลองรัช (รามอินทรา-อาจณรงค์) และทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 โดยอัตราค่าผ่านทางใหม่ ทางกระทรวงคมนาคมได้ลงนามประกาศแล้ว ดังนี้ ทางพิเศษฉลองรัฐ รถ 4 ล้อ ปรับจาก 40 บาท เป็น 45 บาท รถ 6-10 ล้อ จาก 60 บาท เป็น 65 บาท รถมากกว่า 10 ล้อ จาก 80 บาท เป็น 90 บาท ทางพิเศษบูรพาวิถี รถ 4 ล้อ ปรับจาก 70 บาท เป็น 80 บาท รถ 6-10 ล้อ จาก 145 บาท เป็น 165 บาท รถมากกว่า 10 ล้อ จาก 220 บาท เป็น 245 บาท

สำหรับการปรับค่าผ่านทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษบูรพาวิถีครั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขสัญญากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย TFFIF โดยกทพ.ได้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.66 และประกาศให้มีผลบังคับใช้ภายในวันที่ 1 กันยายน 2566 อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2566 กระทรวงคมนาคมได้ประกาศชะลอการปรับค่าผ่านทางดังกล่าวออกไป 6 เดือน หรือให้ไปมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 แทน จนกระทั่งล่าสุดกระทรวงคมนาคมได้ประกาศค่าอัตราค่าผ่านทางใหม่ และเตรียมปรับค่าผ่านทางในครั้งนี้

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ว่า ตามที่ กทพ. มีแผนการดำเนินงานโครงการในระยะที่ 1 (ถนนประเสริฐมนูกิจ-ถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก) หรือตอน N2 เดิม มูลค่าลงทุน 16,960 ล้านบาท โดย กทพ. ได้ปรับแผนและเปลี่ยนชื่อโครงการใหม่ เป็นโครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-วงแหวนรอบนอกฯ และนำเสนอบอร์ด กทพ.เมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา แต่บอร์ด กทพ. มีความเห็นให้ กทพ. กลับไปศึกษาเพิ่มเติม เช่น สภาพความแข็งแรงของโครงสร้างเสาตอม่อ ตามแนวถนนประเสริฐมนูกิจ จำนวน 281 ต้น เนื่องจากมีอายุ 25 ปีแล้ว ซึ่ง กทพ. จะเร่งดำเนินการใน 2 เดือน เพื่อเสนอบอร์ด กทพ. พิจารณาอีกครั้งในเดือนมีนาคมนี้

ส่วนตอน N1 (ช่วงทางพิเศษศรีรัช-ถนนงามวงศ์วาน-ถนนประเสริฐมนูกิจ) ระยะทาง 6.7 กิโลเมตร มูลค่า 5 หมื่นล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่าง ศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีประเด็นช่วงผ่านหน้ามหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ โดยแนวทางก่อสร้างเป็นอุโมงค์ใต้ดิน เพื่อลดผลกระทบ ซึ่งต้องรอสรุปการศึกษาและรับฟังความเห็นผู้เกี่ยวข้องต่อไป