รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า วิเคราะห์การระบาดของไทย
ตัวเลขรายงานรายสัปดาห์ 4-10 กุมภาพันธ์ 2024
จำนวนป่วยนอนโรงพยาบาล 537 ราย เสียชีวิต 5 ราย ปอดอักเสบ 344 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 169 ราย
เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนแล้ว นอนรพ.ลดลง 24.9% และจำนวนผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจลดลง 4%
แต่มีจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบมากขึ้นถึง 38.7%
ทั้งนี้จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ ถือว่าสูงที่สุดในรอบ 8 เดือน นับตั้งแต่ 10 มิถุนายน 2023 เป็นต้นมา และเป็นการเพิ่มอย่างต่อเนื่องถึง 7 สัปดาห์แล้ว
สถิติปอดอักเสบเช่นนี้ มีแนวโน้มที่จะทำให้จำนวนใส่ท่อช่วยหายใจและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นได้ในสัปดาห์ถัดไป
ตัวเลขที่ไม่สอดคล้องระหว่างนอน รพ. และปอดอักเสบนั้น อาจบ่งถึงปัญหาจากการเข้ารับการรักษาเลท เกณฑ์การรับเข้า และ/หรือลักษณะการติดเชื้อในกลุ่มประชากรเสี่ยง ก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม จำนวนปอดอักเสบที่เพิ่มมากเช่นนี้ย่อมแสดงถึงการระบาดที่มีอยู่มากอย่างต่อเนื่อง
จากตัวเลขนอน รพ.คาดประมาณการติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันอย่างน้อย 3,836-5,328 ราย...
แต่ประเมินว่าจำนวนติดเชื้อจริงในแต่ละวันจะมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ตามตัวเลขรายงานข้างต้นอีกเท่าตัว
ทั้งนี้ช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา และเทศกาลแห่งความรักในสัปดาห์นี้ จะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้มีการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่องได้
หลังวันตรุษจีนมา ใครที่ไปที่แออัด สังสรรค์ โดยไม่ได้ป้องกันตัว ควรสังเกตดูว่า 3-5 วันถัดมามีอาการไม่สบายหรือไม่ หากสงสัยควรตรวจ ATK ดูด้วยเสมอ ช่วงวันอังคารจนถึงวันศุกร์นี้ควรประเมินตนเองให้ดี และระมัดระวังการคลุกคลีใกล้ชิดผู้สูงอายุ และผู้ป่วย
หากมีอาการไม่สบาย ควรตรวจโควิด-19 แม้วันแรกๆ ได้ผลลบ อย่าชะล่าใจ ให้ตรวจถึงวันที่ 4-5 หลังจากเริ่มมีอาการ เพราะไวรัสจะพีคช่วงนั้น
ที่สำคัญคือ การตรวจ ATK ควรทำการป้ายทั้งในโพรงจมูกและบริเวณผนังคอด้านหลัง (คอหอย) จะช่วยเพิ่มโอกาสตรวจพบมากขึ้น
ความใส่ใจสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ...ควรป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ
การใส่หน้ากาก ไม่แชร์ของกินของใช้ และเลี่ยงคลุกคลีใกล้ชิดคนที่ไอหรือจาม จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้
ติดแต่ละครั้ง เสี่ยงต่อปัญหาเรื้อรังอย่าง Long COVID อีกด้วย