จากกรณีกรมสุขภาพจิตผลักดันร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สุขภาพจิต พ.ศ. … ที่มีการเสนอให้ตั้งกองทุนสุขภาพจิต และอาจจะดึงเอาเงินจากการคดียาเสพติดเข้ากองทุน เพื่อใช้ในการบำบัดดูแลผู้ป่วยจิตเวชอย่างมีประสิทธิภาพ แก้ปัญหางบประมาณไม่เพียงพอ เนื่องจากปัจจุบันมีงบประมาณสำหรับดูแลผู้ป่วยจิตเวชเฉลี่ยรายละ 50 บาท ขณะที่สากลเฉลี่ย 250 บาทต่อคน แต่ยังมีคำถามว่า หากนำเงินจากคดียาเสพติดมาใช้ จะสามารถใช้งบดังกล่าวเพื่อดูแลผู้ป่วยจิตเวชทั้งหมด ซึ่งบางส่วนไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่นั้น
พญ.ดุษฎี จึงศิรกุลวิทย์ ผู้อำนวยการกองบริหารระบบบริการสุขภาพจิต ระบุว่า จากจำนวนผู้ป่วยจิตเวชในประเทศไทย พบกว่าร้อยละ 70 ที่มีปัญหาเรื่องของการใช้สารเสพติดร่วมด้วย ซึ่งมี 2 แบบ คือ จากคนปกติ ที่ใช้สารเสพติดมานานทำให้เกิดผลกระทบกลายมาเป็นผู้ป่วยจิตเวชในภายหลัง กับอีกกรณีคือ เป็นผู้ป่วยจิตเวชอยู่แล้ว ยังมีการใช้สารเสพติด หรือแอลกอฮอล์ร่วมด้วย เพื่อหวังว่าจะลดอาการบางอย่าง ทำให้เกิดปัญหาคู่กัน ซึ่งขณะนี้พบราวร้อยละ 60 ที่เกิดปัญหาคู่กัน เพราะฉะนั้น หากมีเงินกองทุนเข้ามา ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะสามารถนำไปใช้สำหรับบำบัดดูแลผู้ป่วยจิตเวชที่มีสารเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้องเท่านั้น เพราะอย่างน้อยก็ครอบคลุมไปแล้วถึงร้อยละ 60-70 ของผู้ป่วยจิตเวชทั้งหมด
พญ.ดุษฎี จึงศิรกุลวิทย์ ผู้อำนวยการกองบริหารระบบบริการสุขภาพจิต ระบุว่า จากจำนวนผู้ป่วยจิตเวชในประเทศไทย พบกว่าร้อยละ 70 ที่มีปัญหาเรื่องของการใช้สารเสพติดร่วมด้วย ซึ่งมี 2 แบบ คือ จากคนปกติ ที่ใช้สารเสพติดมานานทำให้เกิดผลกระทบกลายมาเป็นผู้ป่วยจิตเวชในภายหลัง กับอีกกรณีคือ เป็นผู้ป่วยจิตเวชอยู่แล้ว ยังมีการใช้สารเสพติด หรือแอลกอฮอล์ร่วมด้วย เพื่อหวังว่าจะลดอาการบางอย่าง ทำให้เกิดปัญหาคู่กัน ซึ่งขณะนี้พบราวร้อยละ 60 ที่เกิดปัญหาคู่กัน เพราะฉะนั้น หากมีเงินกองทุนเข้ามา ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะสามารถนำไปใช้สำหรับบำบัดดูแลผู้ป่วยจิตเวชที่มีสารเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้องเท่านั้น เพราะอย่างน้อยก็ครอบคลุมไปแล้วถึงร้อยละ 60-70 ของผู้ป่วยจิตเวชทั้งหมด