xs
xsm
sm
md
lg

"ไอติม"เชื่อผลคดีแฟลชม็อบไม่ทำ"พิธา"หลุดแคนดิเดตนายกฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงคำพิพากษาศาลแขวงปทุมวันคดีแฟลชม็อบปี 2562 โทษจำคุก 4 เดือน แต่รอลงอาญา 2 ปี ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะทำให้นายพิธา ขาดคุณสมบัติแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ว่า ในตัวเนื้อหาสาระของคำพิพากษา นายพิธาหรือผู้ถูกฟ้องได้มีการเตรียมการยื่นอุทธรณ์ พร้อมตั้งข้อสังเกต ถึงการวัดรัศมี 150 เมตรในการจัดการชุมนุม ที่ใกล้กับวังสระปทุม และการต่อสู้เรื่องสัดส่วนโทษที่มีจำเป็นจะต้องถึงขั้นโทษจำคุก 4 เดือนหรือไม่

นายพริษฐ์ ชี้แจงเรื่องผลกระทบต่อสถานะทางการเมืองของนายพิธา ใน 3 ประเด็น ว่า คือ 1.เมื่อยื่นอุทธรณ์นายพิธาจะยังไม่หลุดสถานะความเป็น สส. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 ประเด็นที่ 2 คือ ในกระบวนการอุทธรณ์ สามารถนำไปสู่การพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้ก็จะทำให้ไม่มีผลกระทบต่อสถานะทางการเมือง ในกรณีที่หากชนะคดีในชั้นอุทธรณ์ และ 3. หากคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นมีโทษจำคุก ซึ่งมีการวิเคราะห์ว่าจะนำไปสู่การตัดสิทธิ์ทางการเมือง หรือการตัดสิทธิ์การเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีในอนาคต จะไม่เป็นเช่นนั้น โดยหยิบยกรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (7) ที่ระบุว่ารัฐมนตรีไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาให้จำคุก แม้คดีนั้นจะยังไม่ถึงที่สุด หรือมีการรอการลงโทษ เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท ความผิดลหุโทษ หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท ซึ่งบทบัญญัตินี้ไม่ได้หมายถึงคนที่ ”เคย” กระทำ และหยิบยกมาตรา98(6)และ(9) ที่หมายถึงหากขณะนั้นต้องคำพิพากษาอยู่ก็ไม่สามารถรับตำแหน่งได้ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 ไม่ได้ตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต หากนายพิธาพ้นโทษ ก็ยังมีคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรีและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้ตามกฎหมาย

หากท้ายที่สุดนายพิธาต้องเข้าสู่กระบวนการแคนดิเดตนายกหรือรัฐมนตรีแล้วยังมีการตีความหมายมาตรา 160(7) ต่างกันจะต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่ นายพริษฐ์ ยังกล่าวย้ำว่า คำชี้แจงในข้อกฎหมายข้างต้น และยืนยันว่านายพิธายังคงเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้ อย่างไรก็ตาม ต้องเป็นไปตามกระบวนการหากมีใครยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ