หลังจากสำนักพยากรณ์อากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ออกประกาศเมื่อวานนี้ (4 ก.พ.67) เตือนเรื่องอากาศแปรปรวนทางฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก จากอิทธิพลของพายุเฮอริเคนชื่อ "ไพน์แอปเปิล เอ็กซเพรส" (Pineapple Express) ที่จ่อพัดถล่มรัฐแคลิฟอร์เนีย ทางตะวันตกของสหรัฐฯ ด้วยความแรง 148 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้อากาศแปรปรวนระหว่างวันอาทิตย์จนถึงวันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ ขอให้ประชาชนกว่า 40 ล้านคน ในรัฐแคลิฟอร์เนียเฝ้าระวังอันตรายจากพายุและติดตามข้อมูลข่าวสารเรื่องสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายเกวิน นิวซอม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ประกาศภาวะฉุกเฉินใน 8 เคาน์ตี้ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม รวมทั้งลอสแองเจลิส ออเรนจ์ ริเวอร์ไซด์ ซานเบอร์นาร์ดิโน ซานดิเอโก ซานหลุยส์ โอบิสโป ซานตาบาร์บารา และเวนทูรา ซึ่งทั้งหมดอยู่ทางตอนกลางและตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย
การประกาศภาวะฉุกเฉินมีผลทำให้ทหารจากกองกำลังพิทักษ์ชาติของสหรัฐฯ เข้ามาช่วยประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม อนุญาตให้ประชาชนยื่นขอรับสวัสดิการจากรัฐกรณีตกงานและโครงการการช่วยเยียวยาทางการเงินจากรัฐบาลสหรัฐฯ
ส.ต.อ.เอธาน แรกซ์เดล ตำรวจจากเมืองซานตาบาร์บารา เปิดเผยว่า เกิดเหตุน้ำท่วมในบางพื้นที่ของเมืองซานตาบาร์บารา และลมแรงมาก ขณะพายุเริ่มขึ้นฝั่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย ในวันนี้ (5 ก.พ.67) ความแรงของพายุทำให้ต้นไม้ใหญ่โค่นล้มกลางถนน พร้อมเกี่ยวสายไฟฟ้าร่วงลงมา และมีอาคารคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งเสียหายด้วย นอกจากนี้ เสาไฟฟ้าหักโค่น ไฟฟ้าดับในบางพื้นที่ กระทบชาวบ้านราว 900,000 ครัวเรือน
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นไม่มีรายงานเรื่องการบาดเจ็บ แต่การที่ต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่นบนถนน กีดขวางการจราจร ชาวบ้านไม่สามารถขับรถออกจากพื้นที่ ขณะเดียวกัน ตำรวจได้ปิดจราจรที่บริเวณถนนโลมา อัลตา ไดรฟ์ ระหว่างถนนคลิฟฟ์ ไดรฟ์ กับ ถนนชอร์ไลน์ ไดรฟ์ ห้ามประชาชนและผู้ขับขี่ใช้ถนนเส้นนี้ชั่วคราว เนื่องจากมีต้นไม้หักโค่นขวางการจราจร
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศสหรัฐฯ ได้แจ้งเตือนเรื่องอากาศแปรปรวนทางเครื่องสมาร์ทโฟนของประชาชนในรัฐแคลิฟอร์เนีย ให้ระวังอันตรายและติดตามข่าวสารเรื่องพายุอย่างใกล้ชิด แนะนำให้เลี่ยงการเดินทางในระยะนี้ เว้นแต่อพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง หรือหน่วยงานท้องถิ่นมีคำสั่งให้อพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย