xs
xsm
sm
md
lg

เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ จับตาผลประชุม กนง.7 ก.พ.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาพลิกแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ที่ 35.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ รับสัญญาณจากผลการประชุมเฟด โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ตามทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค และการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก





ขณะที่แรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ ชะลอลงในช่วงก่อนการประชุมเฟด เงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงช่วงสั้นๆ กลางสัปดาห์ สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้นรับสัญญาณจากประธานเฟดที่สะท้อนว่า เฟดจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนมีนาคมนี้

อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกแข็งค่าอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ สอดคล้องกับสถานะซื้อสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ

ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลงตามการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ (บอนด์ยีลด์อายุ 10 ปี ของสหรัฐฯ ปรับตัวลงมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 4.00%) ท่ามกลางการคาดการณ์เกี่ยวกับจังหวะการปรับลดดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่อาจมีโอกาสความเป็นไปได้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะรอบการประชุมหลังจากเดือนมีนาคม

นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังมีปัจจัยลบจากข้อมูล ISM ภาคการผลิตในเดือนมกราคม ซึ่งสะท้อนการหดตัวต่อเนื่องของภาคการผลิตสหรัฐฯ แม้ค่าดัชนีฯ จะดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดก็ตาม

ในวันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 (ก่อนช่วงตลาดนิวยอร์ก) เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 35.22 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับ 35.63 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (26 ม.ค. 67)

สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 29 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2567 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 1,980 ล้านบาท แต่มีสถานะเป็น Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 7,410 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตร 7,400 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 10 ล้านบาท)

ADVERTISEMENT


สัปดาห์ถัดไป (5-9 ก.พ.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 34.80-35.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ

ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเดือนมกราคม ของไทย (5 ก.พ.) ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ และกระแสเม็ดเงินลงทุนของต่างชาติ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี ISM/PMI ภาคบริการเดือนมกราคม และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางออสเตรเลีย สถานการณ์เงินเฟ้อของจีนที่สะท้อนจากดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมกราคม และดัชนี PMI ภาคบริการเดือนมกราคม ของญี่ปุ่น จีน ยูโรโซน และอังกฤษด้วยเช่นกัน