นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส. นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก เทพไท เสนพงศ์-คุยการเมือง ระบุว่า นิรโทษกรรม ไร้ประโยชน์ เพราะความขัดแย้งไม่จบสิ้น
เมื่อวานผมได้แสดงความคิดเห็น สนับสนุนให้มีการออก พรบ.นิรโทษกรรม เพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในชาติ และเมื่อวานนี้เช่นเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยในประเด็นพรรคก้าวไกล นำนโยบายการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ใช้ในการหาเสียง และศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า เป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งผลของคำวินิจฉัยมีผลผูกพันทุกองค์กร ซึ่งมีผู้นำคำวินิฉัยดังกล่าวยื่นต่อกกต.ให้พิจารณายุบพรรคก้าวไกล และมีส.ส.จำนวนหนึ่งถูกยื่นตรวจสอบจริยธรรมอย่างร้ายแรง ต่อ ปปช.
ซึ่งแน่นอนทำให้ผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลที่มีอยู่จำนวนมาก ถ้ายึดตามผลการเลือกตั้ง ก็จะมีประมาณ 14 ล้านคน คนเหล่านี้อาจจะไม่เห็นด้วย ถ้าเกิดความไม่พอใจจนก่อให้เกิดความขัดแย้งรอบใหม่ขึ้นมาอีก ซึ่งในอดีตเป็นความขัดแย้งกันระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนระบอบทักษิณ กับกลุ่มผู้ไม่เอาระบอบทักษิณ จนเป็นที่มาของความขัดแย้งทางการเมือง มีการแบ่งสีเสื้อสีแดงกับสีเหลือง
แต่วันนี้น่าจะเกิดความขัดแย้งรอบใหม่ขึ้นอีก ระหว่างกลุ่มไม่เอามาตรา 112 กับกลุ่มผู้สนับสนุน มาตรา 112 ซึ่งหรือที่เรียกกันว่า ฝ่ายก้าวหน้ากับฝ่ายอนุรักษ์นิยมขึ้นมาอีก
เพราะฉะนั้นการออก พรบ.นิรโทษกรรม ให้กับผู้กระทำผิดทางการเมือง เพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์เกิดขึ้นในชาติ แต่ความปรองดอง สมานฉันท์ของคนในชาติ จะไม่เกิดขึ้นได้จริง ถ้าหากยังมีการขัดแย้งทางการเมืองรอบใหม่เกิดขึ้นมาอีก การนิรโทษกรรมครั้งนี้ จะได้ประโยชน์เฉพาะกลุ่ม เฉพาะเหตุการณ์เท่านั้น
เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจะมาเสียเวลากับการออก พรบ.นิรโทษกรรม เพื่อลบล้างความผิดทางการเมือง เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งของคนในชาติอีกต่อไป ได้จริงหรือ?