สื่อทางการจีนรายงานว่า หลังจาก บริษัท ท็อป ไชน์ โกลบอล (Top Shine Global)ของฮ่องกง หนึ่งในนักลงทุนในบริษัทเอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป (Evergrande Group) ผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีน และนักลงทุนต่างชาติ ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลฮ่องกง เมื่อเดือนมิถุนายน 2565 กล่าวหาว่าบริษัทไม่ปฏิบัติตามสัญญาเรื่องการรับซื้อหุ้นคืน
ศาลของฮ่องกงมีคำสั่งในวันนี้ (29 ม.ค.67) ให้ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทเอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ทำการชำระบัญชี คือ นำทรัพย์สินของบริษัทมาขายทอดตลาด และนำเงินมาชำระหนี้คงค้างให้กับเจ้าหนี้ และปิดกิจการ หลังจากบริษัทเอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป กับ คณะเจ้าหน้าที่ รวมถึงเจ้าหนี้ต่างชาติ ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้จำนวนมากของบริษัท
ซีเอ็นเอ็นและบีบีซี รายงานว่า บริษัทเอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งมีสำนักงานในเมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ทางภาคใต้ของจีน เปรียบเสมือนภาพสะท้อนถึงวิกฤตของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของจีน จากข้อมูลรายได้และหนี้สินของบริษัทจนถึงเดือนมิถุนายน 2565 ชี้ว่า บริษัทมีหนี้สินรวมกว่า 328,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเดือนกันยายน 2566 ตำรวจควบคุมตัวนายสวี่ เจียยิ่น ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท เพื่อสอบสวนทางอาญา
บริษัทผิดนัดชำระหนี้ ครั้งแรกเมื่อ 2 ปีที่แล้ว กระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลก
นักวิเคราะห์ ระบุว่า ผลจากคำสั่งของศาลในวันนี้อาจจะกระทบต่อตลาดการเงินของจีนในช่วงเวลาที่ทางการจีนพยายามจะควบคุมเรื่องการเทขายหุ้นหวังทำกำไร ทั้งนี้ เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของจีน
ขณะเดียวกัน หุ้นของบริษัทเอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ร่วงกว่าร้อยละ 20 หลังศาลมีคำสั่งให้ปิดกิจการ และล่าสุด เมื่อเช้านี้ ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงสั่งให้ระงับการซื้อขายหุ้นของบริษัทเอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ปแล้ว