xs
xsm
sm
md
lg

"เทพไท"แนะผู้ลงสมัคร ส.ส.เคลียร์ตัวเองให้ปลอดการถือหุ้นสื่อ อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส. นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก เทพไท เสนพงศ์-คุยการเมือง ระบุว่า “พิธา” ไม่สรุปบทเรียน ”ธนาธร“

ข้อหาของผู้สมัคร ส.ส.ถือหุ้นสื่อ เป็นคุณสมบัติต้องห้าม ซึ่งกำหนดไว้ตามรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมาเคยมีผู้สมัคร ส.ส. และผู้ที่ได้รับเลือกเป็น ส.ส.หลายคนถูกตัดสิทธิ์ด้วยข้อหาถือหุ้นสื่อมาแล้ว แต่นักการเมืองหลายคนไม่สรุปบทเรียนกัน ไม่เข็ดหลาบ ไม่เกรงกลัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีของ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แม้ว่าจะรอดพ้นจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไปแล้วก็ตาม แต่ก็เป็นประเด็นปัญหาที่ทำให้คุณพิธา ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. และมาเสียเวลากับการสู้คดีในศาลรัฐธรรมนูญเป็นเวลาหกเดือนด้วย ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นใดๆ เลย ถ้าหากคุณพิธาได้สรุปบทเรียนจากกรณีของคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หรือ ส.ส.คนอื่นๆ ที่เคยโดนข้อหานี้มาก่อนแล้ว

ที่ผมแปลกใจมากที่สุดก็คือ ทำไมคุณพิธาไม่จัดการเคลียร์ตัวเองให้ปลอดจากการถือหุ้นสื่อให้เสร็จเสียก่อน ตั้งแต่วันที่คุณธนาธร หรือ ส.ส.ของพรรคก้าวไกลถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ให้พ้นจากตำแหน่ง ส.ส.ไปก่อนหน้านี้แล้ว

ผมอยากจะเรียนไปยังนักการเมืองทุกคน ผู้คิดที่จะสมัคร ส.ส.ว่า ก่อนที่จะสมัครต้องตรวจสอบคุณสมบัติ เรื่องการถือหุ้นสื่อเสียก่อน ถ้ามีก็ต้องโอนออกไปให้หมด อย่าให้เป็นประเด็นในการพิจารณาของ กกต.และศาลอีกเลย เพราะการวินิจฉัยในประเด็นการถือหุ้นสื่อ ยังมีความเห็นต่างกัน ระหว่างศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้ง กับศาลรัฐธรรมนูญ

กรณีนักการเมืองถือหุ้นสื่อ ศาลฎีกา เคยมีคำวินิจฉัยไว้แล้ว (คำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง 24/2566 คดีชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ถือหุ้น AIS 200 หุ้น) ถือหุ้นในสัดส่วนที่น้อย ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง ครอบงำ สั่งการใดๆได้

แต่ในส่วนของศาลรัฐธรรมนูญ ได้วินิจฉัยบทบัญญัติมาตรา 98 (3) “เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ” แม้ถือหุ้นเพียงหุ้นเดียว ก็เข้าข่ายตามมาตรา 98 (3) นี้ ไม่เกี่ยวกับจำนวนหุ้นว่ามีจำนวนมากน้อยเพียงใด จะส่งผลครอบงำ หรือสั่งการได้หรือไม่

ผมขอตั้งข้อสังเกตไว้ว่า ถ้าตราบใดยังไม่มีการยกเลิกมาตรา 98 (3) บุคคลใดก็ตาม ถ้าจะมาเป็นนักการเมือง ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ต้องไปตรวจสอบให้ดีว่า ตนเองถือหุ้นสื่อหรือไม่ เพราะการถือหุ้นเพียงหุ้นเดียว ก็ขาดคุณสมบัติทันที

ผมมีข้อแนะนำว่า ถ้าจะสมัคร ส.ส.ต้องเคลียร์ตัวเองให้ปลอดจากการถือหุ้นสื่อ ก่อนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย แบบซ้ำซากอีกเลย