นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า [วิเคราะห์คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ คดีพิธา]
ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยกคำร้องในคดีที่พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถูกร้องว่ามีลักษณะต้องห้ามจากการถือหุ้นสื่อ
โดยศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่า พิธา ไม่มีลักษณะต้องห้ามดังกล่าว โดยให้เหตุผลในสามประเด็น ดังนี้
1. ตามบทบัญญัติมาตรา 98 (3) “เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ” แม้ถือหุ้นเพียงหุ้นเดียว ก็เข้าข่ายตามมาตรา 98 (3) นี้ ไม่จำเป็นต้องดูจำนวนหุ้นมากเท่าไร จนส่งผลครอบงำสั่งการได้หรือไม่
กรณีนี้ ศาลรัฐธรรมนูญเห็นต่างกับศาลฎีกา (คำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง 24/2566 คดีชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ถือหุ้น AIS 200 หุ้น)
เป็นอันว่า ถ้ายังไม่ยกเลิกมาตรา 98 (3) ใครจะมาเป็นนักการเมือง ลงสมัครรับเลือกตั้ง ต้องไปตรวจสอบให้ดีว่าตนเองถือหุ้นสื่อไว้ แม้แต่ 1 หุ้น หรือไม่
ทั้งนี้ ขึ้นกับว่าคดีขึ้นศาลไหน
ก่อนเลือกตั้ง คดีขึ้นศาลฎีกา รอด
หลังประกาศผลเลือกตั้งแล้ว คดีขึ้นศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รอด
2. พิธายังคงถือหุ้นบริษัท ไอทีวี 42,000 หุ้น ณ วันสมัครรับเลือกตั้ง
3. บริษัท ไอทีวี ไม่ได้เป็นสื่อ
โดยพิจารณาจากคำให้การของประธานบริษัท, สปน.บอกเลิกสัญญาการทำสื่อกับไอทีวี, ไอทีวี ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ, งบการเงิน แสดงให้เห็นว่าไม่มีรายได้จากการทำสื่อ, เอกสารส่งสำนักงานประกันสังคม ไม่ได้ระบุว่าทำสื่อ
ผมจะวิเคราะห์คำวินิจฉัยนี้ โดยละเอียดอีกครั้ง ในรายการ “ปิยบุตร ทัวร์” ทางช่อง Friends Talk วันนี้ เวลา 20.00 น.