xs
xsm
sm
md
lg

"ถวิล"ร้อง ป.ป.ช.ประสาน อสส.ยื่นอุทธรณ์คดี"ยิ่งลักษณ์" หวั่นไม่ทันเดดไลน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายถวิล เปลี่ยนศรี สว. ในฐานะอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แถลงข่าวถึงการยื่นเรื่องขอให้อัยการสูงสุดยื่นอุทธรณ์ กรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษายกฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรมว่า ในกรณีของตนมีหลายศาล หลังจากมีคำสั่งโยกย้ายตนได้ร้องศาลปกครองเมื่อปี 2554 และศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ตนชนะคดีจนได้รับการคืนตำแหน่ง ต่อมา สว. ได้มีการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยศาลมีคำวินิจฉัยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อม ครม.ที่ลงมติ พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ

ต่อมาในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตามมาตรา 157 และส่งให้อัยการสูงสุด (อสส.) ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จนกระทั่งศาลยกฟ้อง แต่คดีนี้ยังไม่ถึงที่สิ้นสุด เพราะตามกฎหมายสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ ซึ่งตามกฏหมายผู้ที่จะสามารถยื่นอุทธรณ์คดีนี้ได้คืออัยการ และในขณะนี้ใกล้ครบกำหนด 30 วันคือวันที่ 26 มกราคมนี้ ในการยื่นอุทธรณ์คดี

นายถวิล กล่าวว่า ตนร้อนใจ เพราะใกล้วันสิ้นสุดการยื่นอุทธรณ์ เมื่อกฎหมายเขียนเอาไว้ว่าสามารถจะไปให้ถึงที่สุดได้ ก็อยากให้เรื่องไปถึงที่สุด ไม่ได้หมายความว่าตนต้องการเอาชนะคะคาน หรือเจ็บแค้นอะไรต่างๆ ส่วนตัวไม่มี และเมื่อวานนี้ (23 ม.ค.) ตนก็ได้ไปยื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุดแล้ว และในความเห็นส่วนตัวคิดว่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะ มีเจตนาพิเศษแน่นอน ที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับญาติและพรรคพวก และมีเจตนาที่จะทำให้ตนเสียหาย แต่ว่าศาลยกฟ้อง ตนจึงเห็นว่าควรจะไปให้ถึงชั้นอุทธรณ์ ตนเหมือนนักมวยแม้ไม่ได้เป็นผู้ฟ้องเองแต่ก็เป็นผู้เสียหายในคดี เหมือนนักมวยที่เขาไปจัดชก อัยการก็เปรียบเหมือนโปรโมเตอร์ ที่จับตนไปชก ซึ่งก็แพ้ในครั้งแรก ตนก็อยากจะแก้มือเพราะตนเป็นผู้เสียหาย เมื่อขอแก้มือเองไม่ได้ คนที่จะทำให้ตนแก้มือได้ในชั้นอุทธรณ์ ก็คืออัยการ ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอัยการสูงสุดจะเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ ไม่ปล่อยให้คดีนี้จบไปในชั้นต้นโดยที่ยังมีความสงสัยกันอยู่

นายถวิลกล่าวอีกว่า ในวันนี้ (24 ม.ค.) จะไปยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นต้นเรื่องที่จับเรื่องนี้มาไต่สวน ชี้มูลและนำมาสู่การฟ้องร้อง รวมถึงจะไปขอบคุณที่ได้นำเรื่องนี้ขึ้นมา และขอให้ประสานงานไปยัง อสส.เพื่อดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป

อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ดำเนินการมาถึงขั้นนี้ก็อยากให้รักษากระบวนการยุติธรรม ในเมื่อยังไปไม่สุดทาง หากเลิกกลางคันก็จะเป็นที่เคลือบแคลง แต่ถ้าไปถึงที่สุดแล้วสุดท้ายตนจะแพ้ หรือชนะไม่ใช่เรื่องที่สำคัญ ตนไม่ได้มุ่งหวังว่าจะต้องชนะให้ได้ อีกทั้งกระบวนการยุติธรรมทุกขั้นตอน ตั้งแต่พนักงานสอบสวนไปจนถึงราชทัณฑ์ บางทีมีอะไรที่ไม่ปกติเกิดขึ้นทุกวัน ก็อยากรักษากระบวนการยุติธรรมให้เป็นที่พึ่งของประชาชน สร้างความเท่าเทียมความเสมอภาคให้เกิดขึ้น ไม่อยากให้เรื่องนี้มาเป็นจุดเล็กๆ ที่ทำให้สำนักงานอัยการต้องมีมลทิน

เมื่อถามว่า ยังมีความหวังอยู่หรือไม่ เพราะเหลือเวลาอีกเพียง 2 วันก็จะครบกำหนดแล้ว นายถวิลกล่าวว่า ยังหวังว่าถ้าเวลาจะหมด อัยการสูงสุดหรือ ป.ป.ช. ก็น่าจะไปขอขยายระยะเวลาเพื่อให้มีเวลามากขึ้น ในการดำเนินการเรื่องนี้ให้มันไปถึงที่สุดได้