นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2567 สคร. มีเป้าหมายในการจัดเก็บเงินนำส่งรายได้แผ่นดินจากรัฐวิสาหกิจและกิจการที่กระทรวงการคลังถือหุ้นต่ำกว่าร้อยละ 50 (เงินนำส่งรายได้แผ่นดินฯ) จำนวน 175,000 ล้านบาท โดยไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณ 2567 (1 ตุลาคม 2566 - 31 ธันวาคม 2566) สคร.สามารถจัดเก็บเงินนำส่งรายได้แผ่นดินฯจากผลประกอบการในปี 2566 รวมทั้งสิ้นจำนวน 63,680 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 36 ของเป้าหมายการจัดเก็บในปีงบประมาณ 2567 สูงกว่าประมาณการสะสมจำนวน 6,782 ล้านบาท โดยเงินนำส่งรายได้แผ่นดินส่วนใหญ่มาจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และธนาคารอาคารสงเคราะห์ เป็นต้น
ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้แผ่นดินสะสมสูงสุด 10 อันดับแรก สิ้นไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณ 2567 มีดังนี้
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ธนาคารออมสิน
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
ธนาคารอาคารสงเคราะห์
การท่าเรือแห่งประเทศไทย
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
การไฟฟ้านครหลวง
การประปาส่วนภูมิภาค
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
อย่างไรก็ดี สำหรับปีงบประมาณ 2567 สคร. จะกำกับติดตามการนำส่งรายได้แผ่นดินของรัฐวิสาหกิจ อย่างใกล้ชิด โดยจะพิจารณาผลประกอบการ มาตรการของภำครัฐ และการลงทุนของรัฐวิสำหกิจ เพื่อให้การจัดเก็บ เงินนำส่งรำยได้แผ่นดินฯ เป็นไปตามเป้าหมายและเป็นกลไกในการช่วยรักษาเสถียรภาพทางการคลังต่อไป
ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้แผ่นดินสะสมสูงสุด 10 อันดับแรก สิ้นไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณ 2567 มีดังนี้
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ธนาคารออมสิน
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
ธนาคารอาคารสงเคราะห์
การท่าเรือแห่งประเทศไทย
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
การไฟฟ้านครหลวง
การประปาส่วนภูมิภาค
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
อย่างไรก็ดี สำหรับปีงบประมาณ 2567 สคร. จะกำกับติดตามการนำส่งรายได้แผ่นดินของรัฐวิสาหกิจ อย่างใกล้ชิด โดยจะพิจารณาผลประกอบการ มาตรการของภำครัฐ และการลงทุนของรัฐวิสำหกิจ เพื่อให้การจัดเก็บ เงินนำส่งรำยได้แผ่นดินฯ เป็นไปตามเป้าหมายและเป็นกลไกในการช่วยรักษาเสถียรภาพทางการคลังต่อไป