นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส. นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก เทพไท เสนพงศ์-คุยการเมือง ระบุว่า ผลโพลนิด้า จะทำให้รัฐบาล ประมาทได้
ผมขออนุญาตวิเคราะห์ผลการสำรวจความคิดเห็นของ “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เรื่อง “กรณีทักษิณ ชินวัตร กับความอยู่รอดของรัฐบาล” ใน 2 ประเด็นดังนี้
(1) เมื่อถามถึงความอยู่รอดของรัฐบาล จากกรณีทักษิณ ชินวัตร ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจพบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 39.62 ระบุว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อความอยู่รอดของรัฐบาลเลย รองลงมา ร้อยละ 21.98 ระบุว่า ค่อนข้างส่งผลกระทบต่อความอยู่รอดของรัฐบาล ร้อยละ 18.70 ระบุว่า ไม่ค่อยส่งผลกระทบต่อความอยู่รอดของรัฐบาล ร้อยละ 15.42 ระบุว่า ส่งผลกระทบต่อความอยู่รอดของรัฐบาลอย่างมาก
สำหรับผลโพลในประเด็นนี้ (1) อาจจะทำให้รัฐบาลย่ามใจและตั้งอยู่ในความประมาทได้ว่าม็อบกระแสจุดไม่ติด และการที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พยายามตีกรรเชียง บ่ายเบี่ยง ไม่ตอบคำถามเกี่ยวกับคุณทักษิณ ตัดตอนโยนความรับผิดชอบ ให้กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรมเป็นผู้รับผิดชอบ และตอบคำถาม เพื่อต้องการไม่ให้กรณีคุณทักษิณมาเกี่ยวโยงกับคุณเศรษฐา อาจกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล ซึ่งถ้าดูจากผลโพลถือว่าประสบความสำเร็จ
(2) เมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อการชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้ส่งตัวทักษิณ ชินวัตร กลับเข้าเรือนจำ จะลุกลามจนนำไปสู่วิกฤตการณ์ทางการเมืองรอบใหม่เหมือนการชุมนุมของเสื้อเหลือง เสื้อแดง และ กปปส.ในอดีต พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 41.60 ระบุว่า จะไม่นำไปสู่วิกฤตการณ์ทางการเมืองรอบใหม่แน่นอน รองลงมา ร้อยละ 41.30 ระบุว่า จะนำไปสู่วิกฤตการณ์ทางการเมืองรอบใหม่ แต่ไม่ใหญ่โต เหมือนในอดีต ร้อยละ 11.15 ระบุว่า จะนำไปสู่วิกฤตการณ์ทางการเมืองรอบใหม่เหมือนในอดีตแน่นอน
ในประเด็นนี้ (2) ผลโพลใกล้เคียงกันมาก ระหว่างร้อยละ 41.60 กับร้อยละ 41.30 ซึ่งไม่แตกต่างกันเลย แต่ถ้ารวมกับร้อยละ 11.15 จะนำไปสู่วิกฤตทางการเมืองรอบใหม่เหมือนในอดีตแน่นอน เป็นอัตราร้อยละที่สูง แสดงว่า สถานการณ์ทางการเมือง และอารมณ์ของประชาชน มีสิทธิ์จะลุกฮือขึ้นมาต่อต้านเป็นวิกฤตการเมืองรอบใหม่ ถ้าหากกรมราชทัณฑ์ยังเลือกปฏิบัติ หรือปฏิบัติสองมาตรฐาน สร้างความเหลื่อมล้ำให้เกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ประชาชนอาจจะถึงจุดเดือด และพร้อมจะออกสู่ท้องถนนในทันที
เพราะฉะนั้นการที่กลุ่ม คปท.เดินสายเคลื่อนไหวในต่างจังหวัด เพื่อหาแนวร่วมและสร้างกระแสการต่อต้านความไม่เป็นธรรม ถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวแบบป่าล้อมเมือง ซึ่งในการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน คือเริ่มต้นจากการชุมนุมจุดเล็กๆ ที่สถานีรถไฟสามเสน และขยายผลลุกลามไปทั่วประเทศ จนมีมวลชนเข้าร่วมการชุมนุมนับสิบล้านคน
กรณีทักษิณไม่ยอมติดคุก ถ้าหากรัฐบาลยังไม่ตัดไฟแต่ต้นลม หรือชิงดับกระแสเสียก่อน สถานการณ์อาจจะลุกลามได้รัฐบาล จึงเตรียมตัดประเด็นแต่เนิ่นๆ โดยชิงอนุมัติให้คุณทักษิณพักโทษเสียก่อน เพื่อจะลดกระแสและเงื่อนไขการเคลื่อนไหว ของฝ่ายต่อต้านระบอบทักษิณให้น้อยลงมากที่สุด