xs
xsm
sm
md
lg

“จตุพร”แนะ รบ.คิดให้รอบคอบกู้เงินมาแจก เชื่อจะก่อความเสียหายรุนแรงกว่าโครงการจำนำข้าว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ โดยระบุว่า ทุนนิยมจำบังแวดล้อมรัฐบาลเพื่อไทยมักซ่อนอาการไร้หัวใจ เพื่ออำพรางพฤติกรรมปกติของนายทุนมุ่งเน้นดูดเอากำไรส่วนเกินจากงบประมาณรัฐ และผลประโยชน์ของประชาชนที่ควรได้ไป

นายจตุพร กล่าวว่า ทุนนิยมเป็นระบอบกอบโกยให้ตัวเองได้กำไรส่วนเกินสูงสุด จึงยากที่จะถามหาหัวใจเพื่อคนอื่น แต่กลับเอาสังคมมาบังหน้าแอบเอาประโยชน์จากคนอื่นอย่างไร้หัวใจ ดังนั้น ทุนนิยมที่อยู่ข้างและสนับสนุนรัฐบาลเพื่อไทยขณะนี้ ใครมีหัวใจบ้างลองบอกมาสักสองสามชื่อได้หรือไม่?

อีกทั้งระบุว่า โครงการที่รัฐบาลทุนนิยมบังหน้าเสนอที่ผ่านมา ย่อมไม่มีความผิด แต่การกระทำ การบริหารในโครงการแล้วไปทุจริตฉ้อฉล ไปเอื้อประโยชน์ให้ทุนนิยมไร้หัวใจบังหน้า ซึ่งความผิดอยู่ตรงนั้น โครงการจำนำข้าว โครงการนิรโทษกรรมสุดซอย ล้วนเป็นโครงการจำบังเพื่อทุนนิยมไร้หัวใจทำจนพัง ประชาชนและเกษตรกรจึงเดือดร้อน จากการทำไม่ตรงไปตรงมา

"สิ่งสาคัญที่สุดของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น กฤษฎีพูดชัดถ้าไม่ผิดกฎหมายทำได้ ส่วนกรณีของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีเอกสารหลุดออกมาได้ชำแหละจุดคุ้มทุนอย่างตรงไปตรงมา พร้อมระบุพฤติกรรมจะไม่กู้มาแจกเป็นการหาเสียงไม่ตรงปก ถ้ากล้าทำคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะว่าอย่างไร"

นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อ ป.ป.ช.เตือนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตแล้ว อยู่ที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะใจถึงกล้าทำหรือไม่ ถ้ากล้าต้องเสนอเข้า ครม.ให้มีมติกู้เงินมาแจก แล้วจะรู้ว่า รัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลจะขาดการประชุมกันอย่างมาก เพราะไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วย อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ ป.ป.ช.เชื่อว่า จะก่อความเสียหายรุนแรงกว่าโครงการจำนำข้าว

"เมื่อเอกสาร ป.ป.ช.หลุดออกมาส่งสัญญาณเช่นนี้แล้ว และ รมช.คลัง (นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์) ออกมาย้ำการแจกเงินหมื่นไม่ทัน พ.ค.นี้ ดังนั้นความเป็นจริงรัฐบาลเพื่อไทยควรมอบตัวเสียเถิด เพราะกฎหมายบอกทำไม่ได้ แล้วเพื่อไทยยังหาเสียงหลอกลวงมาตั้งแต่ต้น ถ้าบอกความจริงว่ากู้มาแจกคนย่อมถูกประณามมาตั้งแต่แรกการหาเสียงแล้ว”

พร้อมกล่าวว่า ถ้าพิจารณาด้านลึกของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตแล้วจะยิ่งเห็นทุนนิยมบังหน้าเอาประโยชน์ไปกันใหญ่ทั้งการผลิตที่ดูดเอาส่วนต่างเอื้อประโยชน์ถึง 65% ถ้ารัฐบาลต้องการให้ประชาชนได้ประโยชน์จริงแล้ว สิ่งที่ควรทำคือ จ้างช่วงการผลิตเพียง 35% เท่านั้น แล้วนำไปจำหน่ายต่อในราคาที่ถูก ซึ่งประชาชนจะได้ประโยชน์อย่างยิ่ง

"เมื่ออยากจะทำแล้ว ในคราวจำนำข้าว ป.ป.ช.เตือนก็ยังไม่หยุด มาดิจิทัลก็เอาซิคน (ทุนนิยม) มีหัวใจทั้งหลายจะได้เข้าคุกกัน หรือหนีไปแล้วกลับมาจะโชคดีเหมือนนักโทษชั้น 14 หรือเปล่า"

นายจตุพร กล่าวว่า โครงการดิจิทัลนั้น รัฐบาลเพื่อไทยไม่ยอมรับความจริงจะผิดกฎหมาย เอาแต่รำวงยื้อเวลาไปเรื่อย อีกอย่างที่สำคัญนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรัฐบาลชุดนี้จะอยู่รอทันใช้งบประมาณปี 2567 หรือไม่ ดังนั้น ก่อนจะคิดทำผิดกฎหมายในการกู้เงินมาแจก ควรไตร่ตรองให้รอบคอบ

อีกทั้งระบุว่า ป.ป.ช.ส่งสัญญาณถึงรัฐบาลในการกู้มาแจก ซึ่งไม่ใช่เฉพาะการผิดกฎหมายวินัยการเงินการคลังเท่านั้น แต่ยังจะทำผิดกฎหมายประกอบ รธน.ว่าด้วยการเลือกตั้งด้วย แล้วจะลุกลามถึงขั้นถูกฟ้องให้ยุบพรรคเสียด้วยซ้ำ

ส่วนการแถลงข่าวกรณีเกี่ยวข้องกับนักโทษทักษิณ ชินวัตร ชั้น 14 นั้น นายจตุพร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตรวจการแผ่นดินไปตรวจชั้น 14 รพ.ตำรวจนั้น ทำไมไม่มีการแถลงข่าวให้สังคมรับรู้เลย จึงสงสัยว่า ได้ไปจริงหรือไม่ และทำไมต้องไปในทางลับด้วย เพื่อเป็นประโยชน์กับคนไทยจึงควรนำรูปถ่ายมายืนยัน อีกอย่างต้องออกมาชี้แจงด้วยตัวเอง ถ้าผู้ตรวจการไปจริง ทำไมได้เจอนักโทษชั้น 14 แต่กรรมาธิการตำรวจกลับไม่ให้เจอผู้ป่วย

"ถึงที่สุดจะตัดสินใจอย่างไรก็ว่ากันไปเถิด อย่างน้อยรักษาไม่ให้หมอ รพ.ตำรวจและเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้หัวใจวายไปมากกว่านี้ เพราะอย่างไรปัญหา (นักโทษชั้น 14) ได้รับโทษจริงแล้วหรือยัง ถ้าเข้าคุกแล้วไปรักษาอาการป่วยและกลับมาคุกหรือ รพ.ราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นชีวิตปกติของนักโทษย่อมเข้าใจได้ง่ายตามกฎหมาย"

นายจตุพร ย้ำว่า อีกอย่างหัวหน้าพยาบาล รพ.ตำรวจ อ้างไม่เคยเข้าไปดูอาการนักโทษที่ป่วย พร้อมระบุถึงญาตินานๆ มาเยี่ยมครั้งนั้น จึงผิดธรรมชาติมาก แม้นักโทษหนีคดีอยู่ต่างประเทศ ญาติยังไปเยี่ยมเสมอด้วยความเป็นห่วงใยกัน แต่ป่วยอยู่ รพ.ตำรวจกลับไม่มีใครมาเยี่ยม ซึ่งเป็นการกระทำที่ประหลาดที่สุดกับความสัมพันธ์ในครอบครัวแบบทุนนิยมจำบังไร้หัวใจ

รวมทั้ง กล่าวว่า สิ่งสำคัญเมื่อยังไม่มีข้อพิสูจน์ใดว่า นักโทษอยู่ รพ.ตำรวจจริงหรือไม่ และป่วยจริงหรือเปล่า และเรื่องนี้จะกลายเป็นชนวนก่อวิกฤตให้รัฐบาลและประเทศ อีกอย่างนักโทษได้ทำตัวผิดดีลกลับบ้านหรือไม่?

"หากเบี้ยวดีลที่ตกลงกันไว้ อย่าลืมว่า กล้อง รพ.ตำรวจ ที่เคยอ้างว่าเสีย จะกลายเป็นกล้องดีขึ้นมา สามารถกู้กาพออกมาปลิวว่อนฟ้องประชาชน ขอให้จำปากผมไว้ ในเดือนมีนานี้ อาจจะมีการคายฟันยางกันบ้าง ถ้าผิดดีลเรื่องต่างๆจะจ่อคิวมาแน่นอน แล้วจะมีคนเดือดร้อนกันเต็มไปหมด"

นายจตุพร กล่าวว่า ความน่าห่วงของนักโทษชั้น 14 ผิดดีล นอกจากการทำลายกระบวนการยุติธรรมพังยับเยินแล้ว สิ่งสำคัญอาการคนไทยเบื่อหน่ายคนไทยด้วยกันจึงน่าห่วงใยที่สุด อารมณ์แบบนี้จะเกิดความเสียหายรุนแรงในระยะสั้น

"ดังนั้น จะพักโทษกันวันไหนก็เอาตามที่สบายใจ อยากจะทำอะไรก็เชิญและหลังจากนั้นไปจะเห็นว่า อะไรก็ตามที่ไม่ตรงไปตรงมา แล้วทุกอย่างจะย้อนคืน” นายจตุพร ประชดประชัน

พร้อมระบุว่า เวลานี้ดูเหมือนจะเกิดการทวงหนี้ตามลำดับ สว.ที่เคยโหวตให้นายเศรษฐา เป็นนายกฯ ก็ร่วมลงชื่อซักฟอกทั่วไป และอีกหลากหลายองค์กรรัฐที่กำลังปฏิบัติการรักษากติกาบ้านเมืองเอาไว้ได้ส่งสัญญาณขึ้นกระชัดถี่ เพราะหากปล่อยไปกันจนเลยเถิดแล้ว หวั่นกลัววิกฤตประเทศจะลามเป็นเรื่องใหญ่

ประเทศไทยต้องมาก่อน