นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ตามที่นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) มอบหมายให้กรมศิลปากรจัดโครงการ ราตรีนี้ที่วัดไชยวัฒนาราม เปิดให้ประชาชนแต่งกายชุดไทยเข้าชมโบราณสถานยามค่ำคืน ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 เพื่อตอบสนองนโยบายซอฟท์พาวเวอร์ของรัฐบาล
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ สร้างรายได้ให้กับชุมชน ทั้งร้านให้เช่าชุดไทย ร้านอาหาร และที่พักใน จ.พระนครศรีอยุธยา ในวันเสาร์ อาทิตย์ มีเงินหมุนเวียนจากการให้เช่าชุดไทยไม่ต่ำกว่า 6-7 แสนบาท รายได้จากค่าเข้าชมตั้งแต่เดือนพ.ย.- ธ.ค.2566 มากกว่า 2 ล้านบาท และจากการลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมของ รมว.วธ. ตัวแทนผู้ประกอบการร้านให้เช่าชุดไทยได้เข้าพบและขอให้ขยายเวลาโครงการดังกล่าว เนื่องจากมีรายได้มากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว อีกทั้งร้านอาหารต่างๆ ก็ประสงค์ให้ดำเนินกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง
นายเสริมศักดิ์ จึงสั่งการให้กรมศิลปากรขยายเวลาโครงการไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 ภายใต้ชื่องาน ยามค่ำอยุธยา 2567 Ayutthaya Sundown 2024 ซึ่งนอกจากวัดไชยวัฒนารามแล้ว ยังขยายเวลาเปิดให้เข้าชมวัดราชบูรณะเพิ่มอีกแห่งหนึ่ง
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ สร้างรายได้ให้กับชุมชน ทั้งร้านให้เช่าชุดไทย ร้านอาหาร และที่พักใน จ.พระนครศรีอยุธยา ในวันเสาร์ อาทิตย์ มีเงินหมุนเวียนจากการให้เช่าชุดไทยไม่ต่ำกว่า 6-7 แสนบาท รายได้จากค่าเข้าชมตั้งแต่เดือนพ.ย.- ธ.ค.2566 มากกว่า 2 ล้านบาท และจากการลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมของ รมว.วธ. ตัวแทนผู้ประกอบการร้านให้เช่าชุดไทยได้เข้าพบและขอให้ขยายเวลาโครงการดังกล่าว เนื่องจากมีรายได้มากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว อีกทั้งร้านอาหารต่างๆ ก็ประสงค์ให้ดำเนินกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง
นายเสริมศักดิ์ จึงสั่งการให้กรมศิลปากรขยายเวลาโครงการไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 ภายใต้ชื่องาน ยามค่ำอยุธยา 2567 Ayutthaya Sundown 2024 ซึ่งนอกจากวัดไชยวัฒนารามแล้ว ยังขยายเวลาเปิดให้เข้าชมวัดราชบูรณะเพิ่มอีกแห่งหนึ่ง