น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับรายงานถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์มีการเผยแพร่ภาพและข้อมูลเกี่ยวกับความเดือดร้อนของนักเรียนชาวมอแกน ในการเดินทางไปโรงเรียนบ้านเกาะพยาม อ.เมือง จ.ระนอง ที่ต้องลุยน้ำข้ามคลองซึ่งเสี่ยงอันตราย โดยรัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทย ไม่นิ่งนอนใจ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดระนองตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที
ทั้งนี้ ได้รับการชี้แจงทางโรงเรียนบ้านเกาะพยามว่า ปัจจุบันการเดินทางของนักเรียนจะใช้โป๊ะชักรอกข้ามคลองในกรณีน้ำขึ้น ส่วนเมื่อน้ำลงนักเรียนสามารถเดินข้ามไป-กลับระหว่างโรงเรียนกับที่พักได้ และการเดินทางด้วยวิธีนี้เป็นวิถีปกติของนักเรียนชาวมอแกน ซึ่งทางโรงเรียนได้จัดรถรับ-ส่งนักเรียน (รถอีแต๋น) เป็นระยะทาง 2.5 กิโลเมตร สำหรับนักเรียนชาวมอแกนเป็นประจำทุกปีการศึกษา ซึ่งได้รับงบประมาณจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระนอง และทางสำนักงานเขตพื้นที่ฯ ก็มีการกำกับดูแลการดำเนินงานของโรงเรียน เกี่ยวกับความปลอดภัยในการเดินทางไปเรียนของนักเรียนทุกคนด้วย
ส่วนการดำเนินการช่วยเหลือเกี่ยวกับการเดินทางของนักเรียนในระยะสั้น ปัจจุบันโรงเรียนอยู่ระหว่างการขออนุญาตสร้างทุ่นลอยน้ำข้ามคลองชั่วคราวกับองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะพยาม และสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาระนอง และขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เห็นว่าการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะในด้านความปลอดภัยในชีวิตของเยาวชนต้องได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้นเป็นการถาวร จึงจะใช้โอกาสที่มีการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีออย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ที่ จ.ระนอง ระหว่างวันที่ 22-23 มกราคมนี้ ไปรับทราบเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ พร้อมนำเรื่องที่เป็นข้อติดขัดเข้าหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในที่ประชุม ครม. เพื่อให้การแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนเกิดขึ้นเร็วที่สุด
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ได้รายงานให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยทราบเป็นข้อมูลในเบื้องต้นว่าโครงการก่อสร้างสะพานได้เริ่มขึ้นด้วยงบประมาณตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณปี 2557 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนโดยเฉพาะชาวมอแกนที่อาศัยอยู่บริเวณอ่าวเขาควาย ที่ไม่สามารถเดินทางไปโรงเรียนและรับบริการสาธารณสุขได้ในช่วงมรสุม โดยหน่วยงานดำเนินการเริ่มแรกนั้นเป็นของอำเภอเมืองระนอง แต่ต่อมาได้เปลี่ยนไปอยู่ในการดูแลของสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดระนอง เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญในงานโครงสร้างพื้นฐานมากกว่า จากนั้นเอกชนผู้รับจ้างก่อสร้างได้ดำเนินการไปบางส่วนแล้วแต่ต้องหยุดก่อสร้างไป เนื่องจากเกิดกรณีหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 46 แจ้งความดำเนินคดีบุกรุกป่า ด้วยงานก่อสร้างบางส่วนอยู่ในพื้นที่ป่าชายเลนจังหวัดระนอง
ที่ผ่านมา จังหวัดระนองได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อให้การดำเนินการถูกต้องในข้อกฎหมาย เน้นการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดระนอง และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติฯ จังหวัดระนอง เพื่อให้โครงการกลับมาดำเนินการก่อสร้างต่อไปได้
"นายอนุทิน เน้นย้ำว่าการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ได้รับความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญที่สุด แต่เนื่องจากท่านเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง รมว.มหาดไทยได้ไม่นานและไม่รับทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน แต่เมื่อได้ทราบถึงปัญหาแล้วก็จะแก้ไข และย้ำว่าในยุคที่ท่านเป็น รมว.มหาดไทยอะไรเป็นเรื่องความเดือดร้อนประชาชนจะต้องจัดการให้เร็วที่สุด ท่านจึงจะใช้เวลาช่วงมีประชุม ครม. สัญจรที่ จ.ระนอง เป็นโอกาสในการไปรับฟังเรื่องนี้ และนำเรื่องที่ติดขัดเข้าหารือกับที่ประชุม ครม. เพื่อนำไปสู่การร่วมกันแก้ไขปัญหายกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องในพื้นที่ให้เข้าถึงบริการสาธารณะที่ดีและปลอดภัยโดยเร็ว"