นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมฝ่ายการเมือง กล่าวว่า นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับเหล่าทัพทำความเข้าใจกับกำลังพล ตามนโยบายปรับลดจำนวนนายพลทุกเหล่าทัพ ให้เหลือน้อยกว่า 300 นาย จาก 2,000 นาย ภายในปี 2570 โดยเร่งรัดให้เห็นผลในช่วงรัฐบาลเศรษฐา ในปี 2568 - 2570 จะต้องลดให้เหลือน้อยที่สุดตามความจำเป็นของกองทัพ และสร้างแรงจูงใจในการลดจำนวนชั้นยศ "พันเอก (พิเศษ)" ที่จะขึ้นไปเป็น "นายพล" ในอนาคต ให้ลดอีก 570 อัตรา เพื่อให้สอดรับกับตำแหน่งนายพลที่จะลดลง
นอกจากนี้ นายสุทิน กำชับให้สร้างแรงจูงใจกับนายทหารเกษียณก่อนกำหนด เช่น การจ่ายเงินชดเชย หรือ "เงินก้อน" ประมาณ 7 แสนบาท ขึ้นอยู่กับชั้นยศ และเวลารับราชการ ซึ่งจะมีสูตรคำนวณชัดเจน รวมทั้งสิทธิบำเหน็จ/บำนาญ ก็จะได้รับตามปกติ ถือว่าได้สิทธิประโยชน์มากที่สุด เมื่อเทียบกับโครงการที่ผ่านมา ซึ่งจะสามารถลดภาระงบประมาณประเทศในระยะยาวอีกด้วย
ทั้งนี้ ก่อนสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2567 จะนำเข้าที่ประชุมสภากลาโหม จากนั้นจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ "แผนและกรอบงบประมาณ" ให้มีผลบังคับใช้ทันปีนี้
สำหรับโครงการนี้จะใช้เงินงบประมาณของกระทรวงกลาโหมประมาณ 600 ล้านบาท ภายใน 3 ปี (2568 - 2670 ) หรือเฉลี่ย 200 ล้านบาท/ปี ที่ผ่านมากองทัพจะมีแผนปรับลดจำนวนนายพล "ระยะยาว" ปี 2551 - 2571 แต่นโยบายครั้งนี้ จะผลักดันให้บรรลุเป้าหมายเร็วขึ้น "ภายใน 3 ปี" เชื่อว่าโครงการลดนายพลครั้งนี้จะได้รับการตอบรับดีแน่นอน