นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยกองสาธารณสุขฉุกเฉิน ได้ติดตามคุณภาพอากาศ เพื่อบริหารจัดการฝุ่น PM 2.5 โดยข้อมูลเมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ ในภาพรวมประเทศ คุณภาพอากาศอยู่ในระดับดี ถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยมี 34 จังหวัด ที่ค่าเฉลี่ย PM 2.5 ในรอบ 24 ชั่วโมง เกินมาตรฐาน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในจำนวนนี้ มี 16 จังหวัด ที่เกินมาตรฐานติดต่อกันมากกว่า 3 วัน ได้แก่ นนทบุรี กรุงเทพฯ สมุทรสาคร สมุทรปราการ นครปฐม สมุทรสงคราม ราชบุรี กาญจนบุรี ปทุมธานี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี สุโขทัย อุทัยธานี ชัยนาท และ สิงห์บุรี
นอกจากนี้ มีอีก 10 จังหวัด ที่สถานการณ์เกินค่ามาตรฐานติดต่อกัน 3 วัน ได้แก่ ลำปาง ลำพูน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร ลพบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และหนองคาย โดยขณะนี้มีการเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขแล้ว 4 จังหวัด คือ พิษณุโลก นนทบุรี สมุทรสาคร และสมุทรปราการ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีพื้นที่ใดที่ค่าเฉลี่ย PM 2.5 ในรอบ 24 ชั่วโมง เกินมาตรฐานในระดับสีแดง หรือ 75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
นายแพทย์โอภาส กล่าวต่อว่า ช่วง 1-2 วันข้างหน้า คาดการณ์ว่าปริมาณฝุ่นละอองจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์โดยเช็กค่าฝุ่นเป็นประจำก่อนออกจากบ้านหรือทำกิจกรรม เพื่อปฏิบัติตนตามคำแนะนำของค่าสีฝุ่น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงสูง คือ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีโรคประจำตัวที่อาจมีอาการกำเริบจากฝุ่นได้ หากจำเป็นให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสฝุ่นหรือสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน นอกจากนี้ ขอให้ทำความสะอาดบ้านและสถานที่ต่างๆ ให้สะอาด
ทั้งนี้ ในพื้นที่เสี่ยงได้มีการจัดทำห้องปลอดฝุ่น (Clean Room) โดยเฉพาะสถานศึกษา สถานพยาบาล สถานดูแลเด็ก ผู้สูงอายุ ซึ่งปัจจุบันจัดทำไปแล้ว 1,796 แห่ง ใน 27 จังหวัด ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสามารถเข้ารับบริการได้เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ โดยค้นหาห้องปลอดฝุ่นได้