วันนี้ 20 ธ.ค.66 เวลา 08.35 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปทอดพระเนตรการแสดงการฝึกทางทหารประกอบดนตรี “ราชวัลลภเริงระบำ” (Hop to the bodies slams)
และการแข่งขัน กองทหารเกียรติยศ ประจำปี 2566 ณ ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง ทรงขึ้นแท่นรับการถวายความเคารพจากกองทหารเกียรติยศ เสร็จแล้วประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยัง
พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ จากนั้นประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารประมณฑ์ผลาสินธุ์ ทรงลงพระนามาภิไธยในสมุดเยี่ยม สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังพลับพลาที่ประทับ ลานสวนสนาม ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร โดยมี นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอก สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม นายทหารและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
ต่อมาพระราชทานพระราชวโรกาสให้ พันเอก จักรพงษ์ โพธิ์นาแค ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 13 กองพลทหารราบที่ 3 กราบบังคมทูลถวายรายงาน เสร็จแล้ว พลโท จิรศักดิ์ พรรังสฤษฏ์ เจ้ากรมสารบรรณทหาร เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรการจัดแสดงการฝึกทางทหารประกอบดนตรีฯ จากนั้นผู้บัญชาการทหารสูงสุด กราบบังคมทูลรายงานความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของการแสดงการฝึกทางทหารประกอบดนตรีฯ
จากนั้นทอดพระเนตรการแสดงการฝึกทางทหารประกอบดนตรีฯ โดยกำลังพลจากหน่วยที่ได้รับการคัดเลือก และจัดการแสดงสาธิตการฝึกของกองทัพไทย จำนวน 3 กรม ประกอบด้วย กรมทหารราบที่ 13 กองพลทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 152 กองพลทหารราบที่ 15 และหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง
โดยการแสดงการฝึกทางทหารประกอบดนตรี “ราชวัลลภเริงระบำ” (Hop to the bodies slams) มีทั้งหมด3 บท ประกอบด้วย บทที่1 บุคคลท่าอาวุธ และการปฎิบัติหน้าที่ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ประจำวัน ตลอดจนหน้าที่ทหารมหาดเล็กฯ ในพระราชพิธี บทที่ 2 กายบริหารประกอบอาวุธและพัฒนาเสริมสร้างทักษะความแข็งแกร่งของร่างกาย ตลอดจนความแข็งแรงว่องไว โดยปฏิบัติพร้อมกับอาวุธประจำกาย เพื่อให้คนกับอาวุธเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และบทที่3 พัฒนาและประยุกต์จากบทที่สอง คือถ้าการใช้อาวุธสำคัญและการใช้อาวุธประจำกายในการต่อสู้ทำลายข้าศึกในระยะประชิด
ทั้งนี้ การแข่งขันการฝึกทางทหารประกอบดนตรี“ราชวัลลภเริงระบำ” มีหน่วยทหารเข้าร่วมการแข่งขันจากทุกเหล่าทัพ จำนวนทั้งสิ้น 22 กรม ใช้เวลาคัดเลือกเป็นเวลา5 เดือน ส่วนการจัดการแข่งขันกองทหารเกียรติยศ เพื่อให้การปฏิบัติของกองทหารเกียรติยศมีความเป็นมาตรฐาน มีความสง่างามและเป็นการแสดงถึงความจงรักภักดี โดยมีหน่วยทหารเข้าร่วมการแข่งขันจากทุกเหล่าทัพ จำนวน 8 กองพัน ใช้เวลาในการคัดเลือกเป็นระยะเวลา 3 เดือนจนได้หน่วยที่ดีที่สุด
จากนั้น พระราชทานรางวัลหน่วยที่ชนะเลิศการฝึกทางทหารประกอบดนตรี “ราชวัลลภเริงระบำ” ได้แก่ กรมทหารราบที่ 13 กองพลทหารราบที่ 3 โดย พันเอก จักรพงษ์ โพธิ์นาแค ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 13 กองพลทหารราบที่ 3 รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ กรมทหารราบที่ 152 กองพลทหารราบที่ 15 โดย พันเอก พีรพงศ์ วัลลภาทิตย์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 152 กองพลทหารราบที่ 15 และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง โดย นาวาเอก ศักดา วัฒนธรรม ผู้บังคับการศูนย์การฝึก หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง และพระราชทานรางวัลหน่วยที่ชนะเลิศการแข่งขันกองทหารเกียรติยศ ได้แก่ กองรักษาความปลอดภัยฐานทัพเรือกรุงเทพ โดย นาวาเอก พิทักษ์รัฐ นิลพฤกษ์ ผู้บังคับกองรักษาความปลอดภัยฐานทัพเรือกรุงเทพ กองบัญชาการกองทัพเรือ และรองชนะเลิศ ได้แก่ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 111 โดย พันโท ธเนษฐ ชัยวัฒนธรรม ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 111
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระราชดำรัสทรงชมเชยเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ แก่กำลังพลทุกเหล่าทัพ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าหัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานคู่มือ
การฝึก และแบบฝึกทางทหารประกอบดนตรี “ราชวัลลภเริงระบำ” หรือ Hop to the bodies slams
เมื่อพ.ศ. 2559 ให้กองทัพไทยนำไปดำเนินการฝึกกำลังพล โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการออกกำลัง
ในลักษณะการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง เป็นการยืดหยุ่นร่างกาย และเป็นการสร้างความแข็งแกร่ง
ของกล้ามเนื้อเมื่อมีการปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ เป็นกิจกรรมส่งเสริมความสามัคคี ความเข้มแข็ง
พร้อมเพรียง รวมทั้งสร้างความผ่อนคลาย มีลักษณะการปฏิบัติท่าฝึกทางทหาร ประกอบเข้ากับจังหวะของดนตรีซึ่งจะทำให้ผู้รับการฝึกรู้สึกผ่อนคลาย แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการผ่อนคลายที่อยู่ในกรอบในระเบียบ การฝึกจะเป็นการฝึกร่วมกันระหว่างผู้บังคับบัญชา และผู้ใต้บังคับบัญชาทุกชั้นยศ ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นศรัทธา ความรักความสามัคคีในหมู่ทหาร ตามพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัว โดยเมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในฐานะ
ผู้บังคับกองผสมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ได้ทรงนำการแสดงการฝึกทางทหารประกอบดนตรีฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทอดพระเนตร จึงทรงเข้าพระราชหฤทัยถึงความตั้งใจ มุ่งมั่น อดทน ต้องใช้สมาธิและทักษะ ความมีระเบียบวินัยในการฝึกฝนเป็นอย่างดี