จากกรณีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ประกาศเปิดท่องเที่ยวในพื้นที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน โดยช่วงแรกของการเปิดการท่องเที่ยว เข้าชมถ้ำหลวงในโถง 1-3 จะเปิดให้บริการในช่วงฤดูหนาวถึงร้อน และจะปิดบริการในช่วงฤดูฝน โดยจะเก็บค่าบริการ ในส่วนของนักท่องเที่ยวชาวไทย รายละ 950 บาท และนักท่องเที่ยวต่างชาติ รายละ 1,500 บาท ต้องจองล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์อุทยานถ้ำหลวง ซึ่งการเข้าชมจะแบ่งเป็นกลุ่มละ 10 คน วันละ 2 รอบ เนื่องจากระยะทางเดิน 800 เมตรถึงโถง 3 และกลับออกมาต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ขณะที่หลายคนมองว่าการเก็บค่าเข้าชมดังกล่าว ค่อนข้างแพงเกินไปนั้น
วันนี้ (18 ธ.ค.) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เปิดเผยถึงการตั้งราคาสำหรับการเข้าไปในพื้นที่ถ้ำหลวงว่า มีการปรึกษากันหลายฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายจอร์ช แบรชลีย์ นักประดาน้ำชาวอังกฤษ ผู้ที่เคยมีส่วนร่วมในภารกิจช่วยทีมนักฟุตบอลหมูป่าจากถ้ำหลวง ที่ให้คำแนะนำว่า พื้นที่ถ้ำหลวง เป็นพื้นที่ที่มีคุณค่า เป็นพื้นที่พิเศษ เสี่ยงอันตรายสำหรับการเข้าไป ต้องมีอุปกรณ์พิเศษ และอาศัยทีมที่เชี่ยวชาญสำหรับการนำทางเข้าไป โดยนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต้องการจะเดินทางมา ซึ่งราคา 1,500 บาท สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และ 950 บาท สำหรับคนไทยนั้น ถือว่าไม่สูง
ทั้งนี้ ราคาที่กำหนดไว้เป็นค่าเข้าชมในถ้ำนั้น อุทยานฯ ไม่ได้นำเข้าเป็นรายได้ของอุทยานทั้งหมด แต่แบ่งเป็น 1. ให้บุคคลากรนำเที่ยว 500 บาท ซึ่งแบ่งเป็น ผู้เชี่ยวชาญและผู้ช่วย 350 บาท เจ้าหน้าที่กู้ภัย 2 คนๆ 100 บาท และผู้นำเที่ยวท้องถิ่น 50 บาท 2.นำเข้ากองทุนช่วยเหลือผู้พิทักษ์ป่า และเจ้าหน้าที่ ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตของกรมอุทยานฯ 150 บาท และ 3.นำเข้ากองทุนสวัสดิการถ้ำหลวง 300 บาท ซึ่งจะนำไปใช้เป็นสวัสดิการของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน(เตรียมการ ) ค่าซ่อมแซมอุปกรณ์ในถ้ำและบริเวณด้านนอกที่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ ค่าประกันชีวิตเจ้าหน้าที่และ บุคคลากรนำเที่ยว เป็นต้น
วันนี้ (18 ธ.ค.) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เปิดเผยถึงการตั้งราคาสำหรับการเข้าไปในพื้นที่ถ้ำหลวงว่า มีการปรึกษากันหลายฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายจอร์ช แบรชลีย์ นักประดาน้ำชาวอังกฤษ ผู้ที่เคยมีส่วนร่วมในภารกิจช่วยทีมนักฟุตบอลหมูป่าจากถ้ำหลวง ที่ให้คำแนะนำว่า พื้นที่ถ้ำหลวง เป็นพื้นที่ที่มีคุณค่า เป็นพื้นที่พิเศษ เสี่ยงอันตรายสำหรับการเข้าไป ต้องมีอุปกรณ์พิเศษ และอาศัยทีมที่เชี่ยวชาญสำหรับการนำทางเข้าไป โดยนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต้องการจะเดินทางมา ซึ่งราคา 1,500 บาท สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และ 950 บาท สำหรับคนไทยนั้น ถือว่าไม่สูง
ทั้งนี้ ราคาที่กำหนดไว้เป็นค่าเข้าชมในถ้ำนั้น อุทยานฯ ไม่ได้นำเข้าเป็นรายได้ของอุทยานทั้งหมด แต่แบ่งเป็น 1. ให้บุคคลากรนำเที่ยว 500 บาท ซึ่งแบ่งเป็น ผู้เชี่ยวชาญและผู้ช่วย 350 บาท เจ้าหน้าที่กู้ภัย 2 คนๆ 100 บาท และผู้นำเที่ยวท้องถิ่น 50 บาท 2.นำเข้ากองทุนช่วยเหลือผู้พิทักษ์ป่า และเจ้าหน้าที่ ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตของกรมอุทยานฯ 150 บาท และ 3.นำเข้ากองทุนสวัสดิการถ้ำหลวง 300 บาท ซึ่งจะนำไปใช้เป็นสวัสดิการของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน(เตรียมการ ) ค่าซ่อมแซมอุปกรณ์ในถ้ำและบริเวณด้านนอกที่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ ค่าประกันชีวิตเจ้าหน้าที่และ บุคคลากรนำเที่ยว เป็นต้น