วันนี้ (17 ธ.ค.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการโครงการปรับปรุงประตูควบคุมน้ำกลางคลองบางใหญ่ ต.บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระพิมล โดยมี นางระวีพรรณ แก้วเพียงเพ็ญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยนายชุติมันต์ สกุลพราหมณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 11 นายผดุงศักดิ์ ผ้าเจริญ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนนทบุรี นายยงยุทธ วงษาไฮ ผู้อำนวยการโครงการก่อสร้าง สำนักงานชลประทานที่ 11 นายมงกุฎ เศรษฐเอกพันธ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระพิมล นางสาวปาจรีย์ แน่นหนา เกษตรและสหกรณ์จังหวัดนนทบุรี และหัวหน้าส่วนราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในจังหวัดนนทบุรี ร่วมให้การต้อนรับและให้ข้อมูล
ทั้งนี้ คลองบางใหญ่เป็นทางน้ำชลประทานสายหลักที่มีส่วนช่วยในการบริหารจัดการน้ำ ทั้งในช่วงฤดูแล้งและฤดูฝน มีคลองย่อยๆอีกหลายสายที่ไหลไปเชื่อมต่อกับ คลองอ้อมนนท์ คลองบางกอกน้อย และคลองนราภิรมย์ รวมทั้งยังเป็นคลองที่ใช้สัญจรทางเรือผ่านประตูน้ำกลางคลองบางใหญ่ ซึ่งเป็นอาคารชลประทานหลักในการบริหารจัดการ แต่เนื่องจากประตูน้ำดังกล่าวมีอายุการใช้งานมากกว่า 70 ปี และมีขนาดเล็ก ไม่สอดคล้องกับการใช้งานในสถานการณ์ปัจจุบัน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระพิมลจึงได้ร่วมกับอำเภอบางใหญ่ ลงพื้นที่ตรวจสอบและศึกษาสภาพพื้นที่และเร่งหาแนวทางแก้ไข โดยวางแผนปรับปรุงประตูระบายน้ำกลางคลองบางใหญ่ จากเดิมขนาด 6.00 x 4.50 เมตร จำนวน 1 ช่อง เป็นขนาด 6.00 x 6.00 เมตร จำนวน 2 ช่อง พร้อมประตูเรือสัญจรขนาด 6.00 x 6.00 เมตร จำนวน 1 ช่อง เพื่อเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยา อีกทั้งยังใช้เป็นเส้นทางการคมนาคม ขนส่งทางบกและทางน้ำ ป้องกันน้ำเค็มรุกเข้าพื้นที่ บรรเทาปัญหาภัยแล้งและช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชน และให้นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือท่องเที่ยวได้ตลอดลำคลอง หลังรับทราบปัญหาและแนวทางแก้ไข ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้กรมชลประทาน เร่งดำเนินการตามแผนที่วางไว้ โดยเสนอของบประมาณในปี 2568 เพื่อช่วยลดปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ เป็นการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน และสร้างความมั่งคงทางด้านน้ำที่ยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ คลองบางใหญ่เป็นทางน้ำชลประทานสายหลักที่มีส่วนช่วยในการบริหารจัดการน้ำ ทั้งในช่วงฤดูแล้งและฤดูฝน มีคลองย่อยๆอีกหลายสายที่ไหลไปเชื่อมต่อกับ คลองอ้อมนนท์ คลองบางกอกน้อย และคลองนราภิรมย์ รวมทั้งยังเป็นคลองที่ใช้สัญจรทางเรือผ่านประตูน้ำกลางคลองบางใหญ่ ซึ่งเป็นอาคารชลประทานหลักในการบริหารจัดการ แต่เนื่องจากประตูน้ำดังกล่าวมีอายุการใช้งานมากกว่า 70 ปี และมีขนาดเล็ก ไม่สอดคล้องกับการใช้งานในสถานการณ์ปัจจุบัน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระพิมลจึงได้ร่วมกับอำเภอบางใหญ่ ลงพื้นที่ตรวจสอบและศึกษาสภาพพื้นที่และเร่งหาแนวทางแก้ไข โดยวางแผนปรับปรุงประตูระบายน้ำกลางคลองบางใหญ่ จากเดิมขนาด 6.00 x 4.50 เมตร จำนวน 1 ช่อง เป็นขนาด 6.00 x 6.00 เมตร จำนวน 2 ช่อง พร้อมประตูเรือสัญจรขนาด 6.00 x 6.00 เมตร จำนวน 1 ช่อง เพื่อเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยา อีกทั้งยังใช้เป็นเส้นทางการคมนาคม ขนส่งทางบกและทางน้ำ ป้องกันน้ำเค็มรุกเข้าพื้นที่ บรรเทาปัญหาภัยแล้งและช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชน และให้นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือท่องเที่ยวได้ตลอดลำคลอง หลังรับทราบปัญหาและแนวทางแก้ไข ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้กรมชลประทาน เร่งดำเนินการตามแผนที่วางไว้ โดยเสนอของบประมาณในปี 2568 เพื่อช่วยลดปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ เป็นการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน และสร้างความมั่งคงทางด้านน้ำที่ยั่งยืนต่อไป
