ธนาคารกลางไต้หวันมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.875% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 ในการประชุมวันนี้ (14 ธ.ค.) ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายของปี 2566 ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมเงินอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี ในขณะที่ไต้หวันเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้งครั้งสำคัญในเดือนมกราคม ปีหน้า
การตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายดังกล่าวสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ 20 ราย จาก 21 ราย ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์ก โดยธนาคารกลางไต้หวันไม่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายตั้งแต่เดือนมีนาคม ที่ผ่านมา
การรับมือกับเงินเฟ้อที่เคลื่อนไหวในระดับสูงแบบต่อเนื่องถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดในช่วงที่ใกล้ถึงกำหนดการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน โดยพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลในปัจจุบัน พยายามจะคว้าชัยชนะในศึกครั้งนี้เพื่อก้าวขึ้นกุมอำนาจบริหารไต้หวันติดต่อกันเป็นสมัยที่ 3
ปัจจุบัน รัฐบาลไต้หวันกำลังเผชิญปัญหาต่างๆ จากภาวะเงินเฟ้อสูง โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เคลื่อนไหวที่ประมาณ 3% ตลอดช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากราคาสินค้าอาหารหลัก เช่น เนื้อสัตว์ พุ่งสูงขึ้น ขณะที่ส่วนต่างเงินเฟ้อระหว่างครอบครัวยากจนที่สุดของไต้หวัน กับเงินเฟ้อโดยรวมเพิ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายน สู่ระดับกว้างที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ซึ่งเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลไต้หวัน