รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า งานวิจัยล่าสุดจาก Sato Lab ประเทศญี่ปุ่น
ชี้ให้เห็นว่า BA.2.86.1.1 หรือที่เรียกกันในชื่อว่า JN.1 ซึ่งแตกหน่อต่อยอดจาก BA.2.86 นั้นมีสมรรถนะในการแพร่เชื้อสูง ดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ที่เคยระบาดมาก่อนหน้านี้
เราจึงไม่แปลกใจเลยที่ช่วงปลายปีขณะนี้จึงเห็นทั่วโลกติดเชื้อกันมากขึ้น
ยิ่งกิจกรรมเทศกาลเยอะ คนมากมายแออัด คลุกคลีใกล้ชิดสังสรรค์กันเป็นเวลานานและบ่อยครั้ง โดยไม่ป้องกันตัว ก็จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อแพร่เชื้อ ป่วยกันเป็นจำนวนมากได้
ป้องกันตัว สังเกตอาการตัวเราและคนที่เราคลุกคลี ลดเวลาสัมผัส ลดจำนวนครั้งที่จะมีพฤติกรรมเสี่ยงลงเหลือเท่าที่จำเป็น ที่สำคัญคือ ไม่สบายก็ควรรับผิดชอบทั้งต่อตนเอง ครอบครัว และคนอื่นๆ ด้วยการแยกตัวไปรักษาให้หายดีเสียก่อน