พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ประชาธิปัตย์กับจิตวิญญาณทางการเมือง ซึ่งดูเหมือนว่า จิตวิญญาณนั้นจะหมดไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ลองมาอ่านเรื่อง เก่าๆของประธิปัตย์ดูแล้วจะเสียดายคุณอภิสิทธิ์ ครับ
1. เมื่อ มิ.ย. 2488 ในช่วงเวลาที่คณะราษฎร กำลังเรื่องอำนาจ ได้มีการเลือตั้งช่อม ส.ส.พระนคร แทน ขุนสมาหารหิตะคดี (โป้ ไปรคุปต์) รมต.หลายสมัยในกลุ่มคณะราษฏร ท่ีเสียชีวิตไป
คณะราษฎร ส่ง นายทองเปลว ชลภูมิ (ผู้ก่อการ 2475 และหัวหน้าสายเสรีไทย) ลงสมัครป้องกันตำแหน่ง ทางกลุ่มนักโทษการเมืองในยุค กบฏบวรเดช ( ร.ท.จงกล ไกรฤกษ์ และ นาย สอ เศรษฐบุตร ) ส่ง นายโชติ คุ้มพันธ์ ลงแข่งขัน โดยมี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ลงมาช่วยปราศัยหาเสียง ปรากฏว่า นายโชติ ได้รับชัยชนะอย่างล้นหลาม ส่งผลทำให้คณะราษฎร เริ่มรู้สึกได้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ในกรุงเทพ เริ่มตื่นตัวต่อระบบการปกครองของคณะราษฎร ขึ้นมาบ้างแล้ว
2. ต่อมา ร.ท.จงกล นายสอ และ ม.ร.ว.นวรัตน ได้ร่วมกันตั้งพรรคการเมือง พรรคแรกขึ้นใช้ชื่อว่า “พรรคก้าวหน้า” (แต่เป็น”พรรคก้าวหน้า” ที่เคารพสถาบันพระมหากษัตริย์) ส่วนนายโชติ ตั้ง”พรรคประชาธิบไตย”ขึ้น
ต่อมาทั้ง 2 พรรค ได้รวมตัวกัน จัดตั้ง เป็น”พรรคประชาธิปัตย์ “ขึ้น แล้วไปเชิญ นายควง มาเป็นหัวหน้าพรรค
3. พรรคประชาธิปัตย์ ก่อตั้งเมื่อ 5 เมษายน 2489 ท่ีบ้านพัก นายควง หน้าสนามกีฬาฯ แต่ใช้วันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2489 ซึ่งเป็นวันจักรี เป็นวันประกาศต่อสาธารณชน จึงเป็นพรรคการเมือง ที่เก่าแก่ที่สุดของไทยที่ยังดำเนินการ
อยู่ เคยมีสมาชิกเกือบ 3 ล้านคน และมีสาขาพรรคมากถึง 175 สาขา
พรรคประชาธิปัตย์ ผ่านลมผ่านฝน มานานแล้ว เป็นทั้งทิศทางของประชาธิปไตยอันชัดเจน เป็นทิศทางของวัฒนธรรม ประเพณีอันงดงาม เป็นข้อเปรียบเทียบให้ พรรคการเมืองรุ่นต่อไปได้ ดูไว้เป็นตัวอย่าง ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะแพ้ หรือ ชนะ คนที่อยู่ในพรรค ก็ยังเป็นนักการเมืองที่ผม คบหากันได้แบบสบายใจ
รวมถึงผู้หลักผู้ใหญ่ในอดีตของ พรรคฯด้วยครับ แต่วันนี้ กระแสร์การเมืองแบบทุนนิยม ที่มีเกิดขึ้นแต่ในไทยประเทศเดียวนั้น
กำลังล้างผลาญประเทศเราอยู่ จากความไร้ระเบียบ เอาตัวรอด ทำงานไม่เป็น หาเงินเก่ง ระบบยุติธรรมพังทลาย ฯลฯ ประเทศนี้มีเวรกรรมอะไรกันครับ ทำไมคุณ อภิสิทธิ์ จึงไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค ปชป.
ไม่ต้องโทษใคร โทษพวกเรากันเอง ที่เห็นว่าการเมืองเป็นเรื่องสกปรกไม่กล้าเข้าไปยุ่ง บางคนเอาตัวรอด คอยดูผลอีกอีก 2-3 ปี ว่าคนจนจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าไร