นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เปิดเผยว่า ตามที่กรมฝนหลวงฯมีแผนงานที่จะจัดซื้อจัดจ้างเพื่อหาเครื่องบินทำฝนหลวงมาทดแทน จำนวน 2 ลำ วงเงิน 1,188 ล้านบาทนั้น มีข่าวเล็ดลอดออกมาว่า มีนายหน้าขายเครื่องบินพยายามวิ่งเต้นนักการเมือง ผู้บริหารกระทรวง ที่รับผิดชอบโครงการนี้โดยตรง เพื่อให้วางสเปกหรือ กำหนดสเปกเป็นเครื่องบินจากประเทศที่เป็นตัวแทน ซึ่งพบว่ามีเทคโนโลยีล้าหลัง ไม่ทันสมัย ไม่เป็นที่ยอมรับในสากล ไม่คุ้มค่ากับงบประมาณ
โดยการจัดทำทีโออาร์ (TOR) พยายามที่จะล็อกสเปกให้บริษัทเอกชนที่เป็นตัวแทนนายหน้า ที่มีกิจการตู้ขายเครื่องดื่มอัตโนมัติชื่อดัง ให้เป็นผู้ชนะการประกวดราคา เพราะมีการวางบิลกันบ้างแล้ว อาทิ มีผู้บริหารกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เจ้าหน้าที่กรรมการทีโออาร์ กรรมการจัดซื้อจัดจ้าง และตัวแทนนักการเมือง พากันบินไปดูงานที่โรงงานผลิตเครื่องยนต์ในประเทศที่นายหน้าเป็นตัวแทน เมื่อเดือนตุลาคม 2566 เพื่อกลับมากำหนดสเปกลงในทีโออาร์ล่วงหน้า โดยมีเจ้าของกิจการตู้กดน้ำเครื่องดื่มอัตโนมัติ เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ทั้งหมดใช่หรือไม่ การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการทุจริตและประพฤติมิชอบด้วยหรือไม่
ที่สำคัญการกำหนดทีโออาร์ แว่วมาว่าจะมีการล๊อกสเปกเครื่องยนต์ ให้บริษัทที่จำหน่ายเครื่องบินฝนหลวงสามารถเข้าประมูลได้เพียงประเทศเดียว หรือเป็นลักษณะเฉพาะเจาะจงไปเลยเหมือนที่ทำมาแล้วในอดีต โดยไม่เปิดโอกาศให้บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินจากประเทศที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่าเข้าประมูลงานได้ ฯลฯ
ด้วยเหตุดังกล่าว องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงจะนำความไปร้องเรียนให้ รมว.เกษตรฯได้ทำการตรวจสอบพฤติการณ์ของข้าราชการ ผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง เพื่อรักษาประโยชน์ของเงินแผ่นดิน มิให้ถูกนำไปใช้ถลุงโดยได้เครื่องบินที่ด้อยประสิทธิภาพมาใช้งาน และอาจสร้างความเสี่ยงให้กับผู้ปฏิบัติงานบนเครื่องบินที่ล้าสมัยได้ โดยจะเดินทางไปร้องเรียนในวันศุกร์ที่ 8 ธ.ค.66 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถนนราชดำเนินกลาง