พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการค้ามนุษย์ กล่าวถึงกรณีสื่อเยอรมนีตีแผ่การค้าบริการทางเพศเด็กในไทย และมีนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันถูกจับในคดีซื้อบริการทางเพศ แต่อ้างว่ารอดพ้นจากการดำเนินคดีด้วยการติดสินบนเป็นเงิน 1 ล้านบาท ว่า คดีนี้ตำรวจดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้งหมดจำนวน 4 คน เป็นผู้หญิงไทย 1 คน และสามีชาวอังกฤษอีก 1 คน ทั้งคู่ถูกดำเนินคดีฐานค้ามนุษย์ เนื่องจากมีข้อมูลว่าเป็นเจ้าของร้านที่ให้บริการค้าประเวณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จากข้อมูลการสอบสวนสามารถขยายผลและทราบว่ามีชายชาวเยอรมันและชาวสหรัฐอเมริกา ซื้อบริการเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทุกคน และทำสำนวนได้สมบูรณ์ ก่อนส่งสำนวนให้อัยการสั่งฟ้อง
ต่อมาศาลได้ให้ประกันตัว โดยพนักงานสอบสวนไม่ได้คัดค้านการประกันตัว และไม่ได้แจ้งให้กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ทราบ และไม่ได้ส่งตัวให้กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพิกถอนวีซ่า และทำการกักตัว ถือว่าเป็นความบกพร่องของตำรวจ ซึ่งจะมีผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยาที่รับผิดชอบคดี หัวหน้าพนักงานสอบสวน และพนักงานสอบสวน ที่ต้องเข้ามารับผิดชอบในส่วนนี้
เบื้องต้นตำรวจทั้ง 3 นาย ปฏิเสธการเรียกรับสินบน และอ้างว่าไม่เข้าใจถึงระเบียบการดำเนินการในส่วนนี้ จึงไม่ได้ทำตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัย
ส่วนประเด็นที่มีการให้สัมภาษณ์ของผู้ต้องหาชาวเยอรมนี ว่าได้จ่ายเงิน 1 ล้านบาท ให้กับตำรวจ จะต้องตรวจสอบว่ามีการจ่ายให้ตำรวจจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามทนายความของผู้ต้องหาชาวเยอรมัน ให้การว่าได้รับเงินจากผู้ต้องหาชาวเยอรมันจริงเป็นจำนวน 1 ล้านบาท แต่มีส่วนใช้ประกันตัวในชั้นศาล 200,000 บาท และเงินประกันตัวผู้ต้องหาในชั้นศาล 500,000 บาท เพื่อขอออกนอกประเทศ โดยมีข้ออ้างว่าจะไปทำธุระเรื่องธุรกิจ ส่วนที่เหลืออีก 300,000 บาท ทนายให้การว่าเป็นค่าดำเนินการด้านกฎหมาย แต่ตำรวจจะยังต้องตรวจสอบว่ามีเงินส่วนอื่นจ่ายให้กับตำรวจเพิ่มเติมหรือไม่ หากพบว่ามีการเรียกรับสินบนก็ต้องดำเนินคดีทางอาญาต่อไป
ส่วนกรณีที่ประเทศเยอรมนีไม่มีสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน เป็นเรื่องหนึ่งที่ได้จะประสานกับทางเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย โดยนัดหมายในวันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพูดคุยถึงแนวทางการช่วยเหลือทางคดี โดยจะขอความร่วมมือให้ทางตำรวจเยอรมัน ช่วยสอบปากคำผู้ต้องหาถึงปมเรียกรับสินบน เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริง และจะปรึกษาถึงแนวทางการรับตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีในประเทศไทยด้วย
สำหรับชายชาวอเมริกาอีกคนที่ถูกดำเนินคดี จากข้อมูลทราบว่าขณะนี้เดินทางหนีออกนอกประเทศผ่านทางช่องทางธรรมชาติไปแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ทางประเทศสหรัฐอเมริกา ให้ความสำคัญเนื่องจากเป็นคดีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ จึงเตรียมประสานกับทางสถานทูตอเมริกา พูดคุยปรึกษาทางคดีเพิ่มเติมด้วย พร้อมประสานกองการต่างประเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายแดง หรือ red notis ติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยไว้ก่อน ส่วนชายชาวอังกฤษ ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาค้ามนุษย์ ยืนยันว่ายังอยู่ในประเทศไทย จึงสั่งให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เรียกตัวผู้ต้องหาชาวอังกฤษเข้ามากักขัง ที่สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตามระเบียบ
ต่อมาศาลได้ให้ประกันตัว โดยพนักงานสอบสวนไม่ได้คัดค้านการประกันตัว และไม่ได้แจ้งให้กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ทราบ และไม่ได้ส่งตัวให้กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพิกถอนวีซ่า และทำการกักตัว ถือว่าเป็นความบกพร่องของตำรวจ ซึ่งจะมีผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยาที่รับผิดชอบคดี หัวหน้าพนักงานสอบสวน และพนักงานสอบสวน ที่ต้องเข้ามารับผิดชอบในส่วนนี้
เบื้องต้นตำรวจทั้ง 3 นาย ปฏิเสธการเรียกรับสินบน และอ้างว่าไม่เข้าใจถึงระเบียบการดำเนินการในส่วนนี้ จึงไม่ได้ทำตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัย
ส่วนประเด็นที่มีการให้สัมภาษณ์ของผู้ต้องหาชาวเยอรมนี ว่าได้จ่ายเงิน 1 ล้านบาท ให้กับตำรวจ จะต้องตรวจสอบว่ามีการจ่ายให้ตำรวจจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามทนายความของผู้ต้องหาชาวเยอรมัน ให้การว่าได้รับเงินจากผู้ต้องหาชาวเยอรมันจริงเป็นจำนวน 1 ล้านบาท แต่มีส่วนใช้ประกันตัวในชั้นศาล 200,000 บาท และเงินประกันตัวผู้ต้องหาในชั้นศาล 500,000 บาท เพื่อขอออกนอกประเทศ โดยมีข้ออ้างว่าจะไปทำธุระเรื่องธุรกิจ ส่วนที่เหลืออีก 300,000 บาท ทนายให้การว่าเป็นค่าดำเนินการด้านกฎหมาย แต่ตำรวจจะยังต้องตรวจสอบว่ามีเงินส่วนอื่นจ่ายให้กับตำรวจเพิ่มเติมหรือไม่ หากพบว่ามีการเรียกรับสินบนก็ต้องดำเนินคดีทางอาญาต่อไป
ส่วนกรณีที่ประเทศเยอรมนีไม่มีสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน เป็นเรื่องหนึ่งที่ได้จะประสานกับทางเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย โดยนัดหมายในวันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพูดคุยถึงแนวทางการช่วยเหลือทางคดี โดยจะขอความร่วมมือให้ทางตำรวจเยอรมัน ช่วยสอบปากคำผู้ต้องหาถึงปมเรียกรับสินบน เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริง และจะปรึกษาถึงแนวทางการรับตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีในประเทศไทยด้วย
สำหรับชายชาวอเมริกาอีกคนที่ถูกดำเนินคดี จากข้อมูลทราบว่าขณะนี้เดินทางหนีออกนอกประเทศผ่านทางช่องทางธรรมชาติไปแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ทางประเทศสหรัฐอเมริกา ให้ความสำคัญเนื่องจากเป็นคดีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ จึงเตรียมประสานกับทางสถานทูตอเมริกา พูดคุยปรึกษาทางคดีเพิ่มเติมด้วย พร้อมประสานกองการต่างประเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายแดง หรือ red notis ติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยไว้ก่อน ส่วนชายชาวอังกฤษ ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาค้ามนุษย์ ยืนยันว่ายังอยู่ในประเทศไทย จึงสั่งให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เรียกตัวผู้ต้องหาชาวอังกฤษเข้ามากักขัง ที่สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตามระเบียบ