xs
xsm
sm
md
lg

"เทพไท"ซัด กกต.ล้มเหลวไม่แจกใบเหลือง-ใบแดงเลือกตั้งปี 66 จี้ยุบคืนให้มหาดไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




นายเพทไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า กกต.ล้มเหลว ยุบ กกต. คืนให้ มหาดไทย

ผมได้อ่านคำชี้แจงของเลขาธิการคณกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องการไม่แจกใบเหลืองใบแดงในการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2566 ด้วยเหตุผล 6 ข้อแล้วนั้น เปิดคำถามในใจขึ้นมาทันทีว่า แล้วเราจะมี กกต.ไปทำไม?

การมี กกต.เพื่อทำหน้าที่ควบคุมการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่ยอมให้คนทุจริตการเลือกตั้ง คนซื้อเสียงเข้าสู่สภาได้ แม้แต่วินาทีเดียว

แต่การเลือกตั้งเมื่อเมื่อปี 2566 เป็นที่รับรู้กันทั่วไปว่า มีการซื้อเสียงกันทุกเขตเลือกตั้ง แต่ กกต.ไม่สามารถให้ใบแดง ใบเหลือง ใบส้ม แก่ผู้สมัครรายใด ก่อนวันเลือกตั้งได้เลย หลังการเลือกตั้งแล้ว กลับปล่อยผีเข้าสภาทั้ง 400 เขต การอ้างเหตุผลความจำเป็น ที่ไม่สามารถให้ใบแดง ใบเหลือง ได้ 6 ข้อ พอสรุปประเด็นได้คือ เรื่องคดีเลือกตั้งเป็นคดีซับซ้อน เกี่ยวพันผู้มีอำนาจ เมื่อสามารถเอาชนะเลือกตั้งได้ ทุกเรื่องต้องนำไปสู่การพิจารณาของศาล การนำคดีเลือกตั้งไปสู่ศาล เป็นอิสระของศาลไม่อาจคุมได้ การชั่งน้ำหนักพยานต้องใช้มาตรฐานคดีอาญา ถ้ายังมีข้อสงสัยอยู่ ก็ยกประโยชน์ให้ผู้ถูกร้อง ไม่มีความผิด

ในประเด็นเหล่านี้ ส่วนตัวเห็นว่า กกต.ไม่สามารถจับกุม หรือมีพยานหลักฐานเพียงพอ ที่จะให้ศาลลงโทษได้ เป็นความล้มเหลวในการปฎิบัติหน้าที่ ไม่สามารถรวบรวมหลักฐานเอาผิด ต่อผู้ทุจริตการเลือกตั้งได้ แต่ในความเป็นจริงกฎหมายได้ให้อำนาจแก่ กกต.สามารถใช้เหตุแห่งความสงสัย ให้ใบแดง ใบเหลือง ใบส้ม แก่ผู้สมัครก่อนการเลือกตั้งได้ เป็นการสกัดคนซื้อเสียงออกจากการเลือกตั้งก่อน

รวมทั้งขัอมูลที่เลขาธิการ กกต.ระบุว่า การเลือกตั้งปี 2566 มีจำนวนเรื่องร้องเรียน ในภาพรวมลดลงมากกว่าครึ่ง เฉพาะการร้องเรียนเกี่ยวกับการซื้อสิทธิ์ขายเสียง 100 กว่าเรื่อง นอกนั้นเป็นเรื่อง อื่นๆ เช่น การนับคะแนน การหลอกลวง กว่า 100 เรื่อง และเป็นเรื่องที่ชุดต่างๆ ไปปฏิบัติการได้ข้อมูลและเบาะแสมา เกือบ 100 เรื่อง รวมเป็นคำร้องทั้งหมด 365 เรื่อง

ซึ่งประเด็นนี้ อยากจะตั้งข้อสังเกตว่า เป็นไปได้หรือไม่ การร้องเรียนต่อ กกต.เรื่องการซื้อเสียงที่ผ่านมา ไม่สามารถเอาผิดใครได้ จึงไม่อยากร้องเรียนอีกแล้ว กับอีกเหตุผลหนึ่ง คือการซื้อเสียงเป็นเรื่องปกติ เป็นค่านิยมของประชาชนผู้ใช้สิทธิ์ไปแล้ว จึงไม่อยากจะร้องเรียนให้เสียเวลา

เหตุผลที่เลขาธิการ กกต.ยกขึ้นมากล่าวทั้งหมดนั้น เป็นการแสดงถึงความล้มเหลว ในการควบคุมการเลือกตั้งของ กกต.อย่างสิ้นเชิง ยิ่งทำให้การเลือกตั้งในอนาคต มีการซื้อเสียงได้มากยิ่งขึ้น เพราะซื้อเสียงแล้ว กกต.ไม่กล้าจับผิด ไม่แจกใบแดง ปล่อยผีเข้าสภาไปก่อน ค่อยมาสอยทีหลัง ทำให้นักการเมืองที่ซื้อเสียงส่วนหนึ่ง มีความมั่นใจในการซื้อเสียง หวังไปตายดาบหน้า เพราะถือคติว่าถ้าแพ้เลือกตั้ง ไม่สามารถวิ่งเต้นกับ กกต.ได้ แต่เมื่อซื้อเสียงจนชนะเลือกตั้งแล้ว ค่อยไปวัดดวงกัน ถ้า กกต.จับได้ค่อยวิ่งเต้นกับกกต. หากจับไม่ได้ก็โชคดีไป

ถ้า กกต.ยังคงทำงานแบบนี้ ก็ไม่ควรมี กกต.อีกต่อไป ควรยุบทิ้ง กกต.แล้วคืนอำนาจให้กระทรวงมหาดไทย จัดการเลือกตั้งเหมือนในอดีตเสียดีกว่า