นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังแเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ครั้งที่ 3/2566 พร้อมด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ห้องกิติยากรวรลักษณ์ ชั้น 4 ตึกสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์
ทั้งนี้ ได้ดำเนินการร่วมกันในการแก้ปัญหาข้าว ดูดซับผลผลิตข้าวเพื่อผยุงราคาให้เกษตรกรพึงพอใจ เป็นธรรมต่อเกษตรกร ที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ธนาคาร ธ.ก.ส. จ่ายเงินชดเชยให้เกษตรกร โดยสถาบันเกษตรกร สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับซื้อข้าว เกษตรกรรายย่อยที่ไม่มียุ้งฉางเก็บสตอกไปฝากสถาบันเกษตรกร สถาบันฯ ได้รับเงินชดเชย 1,000 บาท/ตัน เกษตรกร ได้รับ 500 บาท/ตัน และเกษตรกรที่มียุ้งฉางเก็บสตอกจะได้รับ 1,500 บาท/ตัน
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีมติเรื่องโรงสี ที่มีส่วนช่วยรับซื้อข้าวจากเกษตรกร ทำให้ข้าวไม่ล้นตลาด โดยดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์จะคิดในโครงการนี้อยู่ที่ 4.86 % ภาครัฐจะช่วยชดเชยดอกเบี้ย 4% และที่เหลือโรงสีจะเป็นผู้รับภาระดังกล่าวไป ซึ่งจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ โดยให้ คชก. จ่ายเงินชดเชยไปก่อน งบประมาณ 780 ล้านบาท
ส่วนเรื่องที่ชาวนาได้ไร่ละ 1,000 บาท จำนวน 4.68 ล้านครัวเรือนนั้น ซึ่งเป็นค่าบริหารจัดการข้าวที่ได้มีมติไปแล้ว โดยภาครัฐร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) จะร่วมกันคิกออฟให้ชาวนาทั่วประเทศได้รับเงินไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ เป็นเงินครัวเรือนละ 20,000 บาท ในเช้าวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ เป็นต้นไป คาดว่าจะโอนเข้าบัญชีครบทุกครัวเรือนได้ไม่เกิน 5 วันทำการ
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า ราคาข้าวมีการเพิ่มขึ้น จากสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาอยู่ที่ 14,300 บาท/ตัน ได้มีการเปิดจุดตลาดนัดและหารือโรงสี ทำให้ราคาเพิ่มขึ้น 250 บาท/ตัน เป็น 14,550-15,300 บาท/ตัน ข้าวเปลือกเจ้าราคาสัปดาห์ก่อน 11,000 บาท/ตัน สัปดาห์นี้ 11,450-11,700 บาท/ตัน ข้าวเปลือกเหนียว ราคา 12,900 -13,800 บาท/ตัน และได้ฝากให้สมาคมชาวนาดูแลการเก็บเกี่ยวให้ได้ข้าวคุณภาพดี จะได้ราคาดี ดูแลผลผลิต การเก็บเกี่ยวให้ดี
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมการค้าภายในระบุว่า โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสตอก ปีการผลิต 2566/67 จะช่วยชดเชยดอกเบี้ยโรงสีเก็บสตอกข้าว 4% งบประมาณ 780 ล้านบาท เป้าหมาย 4 ล้านตัน โดยให้โรงสีเก็บสตอก 2-6 เดือน มีระยะเวลารับซื้อ ตั้งแต่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567 (ทั่วไป) และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2567 (สำหรับภาคใต้) มีระยะเวลาเก็บสตอก ตั้งแต่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ ถึงเดือนธันวาคม 2567 และระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2568