xs
xsm
sm
md
lg

ยอดจดทะเบียนรถ BEV เดือน ต.ค. พุ่งกว่า 400%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เดือนตุลาคม 2566 มียานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV จดทะเบียนใหม่จำนวน 9,808 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคมปีที่แล้วร้อยละ 400.41 ส่งผลให้ 10 เดือนของปี 2566 หรือตั้งแต่เดือนมกราคม–ตุลาคม มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมจำนวน 77,737 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 409.98 ส่วนการผลิตรถยนต์เดือนตุลาคม 2566 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 7.02 โดยมีจำนวนรถยนต์ทั้งสิ้น 158,734 คัน และลดลงจากเดือนกันยายน 2566 ร้อยละ 3.27 เรื่องจากการผลิตเพื่อส่งออกลดลงร้อยละ 3.57 เพราะฐานสูงในปีที่แล้ว และผลิตเพื่อขายในประเทศลดลงร้อยละ 11.65 จากการผลิตรถกระบะลดลงร้อยละ 27.44 ตามยอดขายรถกระบะที่ลดลงถึงร้อยละ 37.93 จากการเข้มงวดการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน
ส่งผลให้จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 มีทั้งสิ้น 1,544,705 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 0.65

ส่วนการผลิตเพื่อส่งออก เดือนตุลาคม 2566 ผลิตได้ 94,342 คัน เท่ากับร้อยละ 59.43 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 3.57 ส่งผลให้เดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 904,306 คัน เท่ากับร้อยละ 58.54 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 7.12

การผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ เดือนตุลาคม 2566 ผลิตได้ 64,392 คัน เท่ากับร้อยละ 40.57 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 11.65 และเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ผลิตได้ 640,399 คัน เท่ากับร้อยละ 41.46 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 7.26

ส่วนยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือนตุลาคม 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 58,963 คัน ลดลงจากเดือนที่แล้ว ร้อยละ 5.03 และลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 8.75 จากยอดขายรถกระบะที่ลดลงถึงร้อยละ 37.93 เพราะสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ รวมทั้งยอดขายรถพีพีวีลดลงร้อยละ 19.32 จากการออกรถรุ่นใหม่ของรถSUV หลายรุ่น รวมทั้งรถบรรทุกขายลดลงร้อยละ 14.48 จากเศรษฐกิจชะลอตัวด้วยงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่ล่าช้าออกไปซึ่งกระทบการลงทุนของภาครัฐ และการส่งออกหลายสินค้ายังคงลดลงซึ่งกระทบอำนาจซื้อจากการลดเวลาการทำงานลง ตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 รถยนต์มียอดขาย 645,833 คัน ลดลงจากปี 2565 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 7.51

ส่วนการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือนตุลาคม 2566 ส่งออกได้ 105,726 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วร้อยละ 8.46 และเพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 12.20 จากการส่งออกรถกระบะและรถ PPV เพิ่มขึ้นตามยอดขายรถยนต์ในประเทศคู่ค้าที่เติบโต ดังนั้น จึงส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกากลางและอเมริกาใต้ แยกเป็นรถยนต์สันดาปภายใน ICE 103,614 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 11.10 ส่งออกรถยนต์ HEV 2,112 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 119.31 มูลค่าการส่งออก 72,481.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 17.33

10 เดือนแรกของปี 2566 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 927,625 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 15.86 แยกเป็นรถยนต์สันดาปภายใน ICE 918,157 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 15.87 ส่งออกรถยนต์ HEV 9,468 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 14.60 มูลค่าการส่งออก 591,916.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 19.03