xs
xsm
sm
md
lg

“หมอวรงค์”ชี้แจงกรณีทนายส้มร้อง กกต.ล้มล้างการปกครองฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า คำชี้แจงหัวหน้าพรรคไทยภักดี กรณีทนายส้มร้อง กกต.ว่าหมอวรงค์ ล้มล้างการปกครองฯ จากการที่ กกต.ตั้งคำถามมาว่า

๑.นายวรงค์ เดชกิจวิกรม มีความเกี่ยวข้องกับพรรคไทยภักดีอย่างไร และมีตำแหน่งใด ในพรรคไทยภักดี โดยขอให้อ้างอิงเอกสาร หรือหลักฐานที่เกี่ยวข้อง

ขอให้การดังนี้

วันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๖๖ มีการประชุมกรรมการบริหารพรรคไทยภักดี ทางนายวรงค์ เดชกิจวิกรม ได้แจ้งให้ที่ประชุมได้รับทราบว่า ขอลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคไทยภักดี พร้อมกับยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคไทยภักดี ซึ่งส่งผลให้กรรมการบริหารพรรคทั้งคณะพ้นจากตำแหน่ง ตามข้อบังคับพรรค ข้อ ๑๖(๒)

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารพรรคไทยภักดี มีมติเป็นเอกฉันท์ให้นายธนุ สุขบำเพิง เป็นรักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี จึงถือว่านายวรงค์ เดชกิจวิกรม ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค และ ไม่มีตำแหน่งในคณะกรรมบริหารพรรคไทยภักดี ตั้งแต่วันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๖๖ เป็นต้นไป ส่วนการเรียกนายวรงค์ เดชกิจวิกรมว่าประธานพรรคไทยภักดี เป็นการเรียกให้เกียรติ และไม่มีอำนาจใดๆ ในการบริหารงานพรรค

๒.ตามที่มีการกล่าวหาคำแถลงการณ์ของนายวรงค์ เดชกิจวิกรม เมื่อวันที่ ๕สิงหาคม๒๕๖๖ ข้างต้น เป็นการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๖๐ มาตรา๙๑(๑) และ(๒) นั้น ท่านประสงค์จะชี้แจงข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานใดหรืออ้างบุคคลใดเป็นพยานหรือไม่อย่างไร

ขอให้การดังนี้

ตามคำแถลงการณ์ของนายวรงค์ เดชกิจวิกรม เมื่อวันที่ ๕สิงหาคม๒๕๖๖ เป็นการให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชนเรื่องระบอบการปกครองที่แท้จริงของประเทศไทยหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ.๒๔๗๕ ซึ่งได้แบบอย่างมาจากประเทศอังกฤษ ที่เรียกระบอบการปกครองนี้ตามศัพท์ภาษาอังกฤษว่า constitutional monarchy ซึ่งแปลตรงตามศัพท์ว่า "ราชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญ" มิใช่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่เป็นการแปลคำศัพท์โดยบิดเบือนหลอกลวงของคณะราษฎร

ที่สำคัญคณะราษฎรได้ดัดแปลงระบอบการปกครองนี้ด้วยการลิดรอนพระราชอำนาจพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีตามระบอบการปกครองอันเป็นสากลในนานาอารยประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย และทรงมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

เป็นการทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่า ระบอบการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้น พระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือการเมือง ทั้งๆที่ตามรัฐธรรมนูญ พระมหากษัตริย์ทรงมีพระราชอำนาจตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ไม่ใช่ดั่งที่ประชาชนถูกอธิบายบิดเบือนว่า พระองค์อยู่เหนือการเมือง เป็นแค่พระประมุข แต่พระองค์นอกจากทรงเป็นประมุขแล้ว พระองค์ทรงมีพระราชอำนาจตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด

ดังนั้นคำว่าการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กับการปกครองระบอบราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ จึงเป็นเรื่องเดียวกัน เป็นประชาธิปไตยเหมือนกัน มีองค์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเหมือนกัน มาจากรากศัพท์เดียวกัน นั่นคือ constitutional monarchy เพียงแต่สิ่งที่ต่างกันนั่นคือ คำว่าประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ถูกสอนมาให้เข้าใจผิดว่า พระองค์อยู่เหนือการเมือง ทั้งๆที่พระองค์มีพระราชอำนาจ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ชื่อที่เรียกที่ถูกต้องจึงควรเป็น ราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ

ซึ่งคำแถลงการณ์ของนายวรงค์เดชกิจวิกรม เป็นหลักการความจริงอันเป็นที่ประจักษ์ชัดเจน มิได้มีข้อความใดที่เป็นการสื่อแสดงถึงเจตนาที่จะล้มล้างการปกครองของประเทศแต่อย่างใด และนายวรงค์ เดชกิจวิกรม ได้ใช้สิทธิ์เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อแสดงความคิดเห็น ให้ประชาชนเข้าใจถึงสิ่งที่ถูกต้อง และโดยสาระก็มิได้ล้มล้าง หรือเป็นปฏิปักษ์ต่อระบบนี้ และพรรคไทยภักดีก็มิได้มีการดำเนินการใดๆ เพื่อล้มล้างหรือเป็นปฏิปักษ์ และคิดว่าเป็นสิทธิและเสรีภาพที่นายวรงค์ เดชกิจวิกรม สามารถแสดงออกได้