นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด นักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า กระทู้พลีชีพเรื่อง Soft Power เอาจริงๆนโยบายนี้ไม่ได้ต้องการอำนาจเหนือคนชาติอื่น แต่ถูกมองจากประเด็นทางเศรษฐกิจโดยเอาเรื่องทางวัฒนธรรมมาเป็นจุดขายโดยมองผ่านความสำเร็จของอุตสาหกรรม Hollywood Jpop Kpop แล้วเราอยากมีอะไรทำนองนั้นบ้าง
และถ้าจะมองรวมๆ แล้วคาดหวังว่าต่างชาติจะยอมจ่ายตังส์เพื่อเข้าถึงวัฒนธรรมของเรา ผมขอใช้ SWOT มาช่วยนิดหน่อย คือการท่องเที่ยว ทำให้การท่องเที่ยวซึ่งประเทศไทยมีพื้นฐานที่ดีระดับหนึ่งอยู่แล้วเป็นส่วนหนึ่งของ Soft Power ในครั้งนี้ นั่นคือ การยกกิจกรรม LGBTQ เป็นจุดขาย เชิญชวนให้คนมาร่วมเทศกาล Pride Month ถนนคนเดิมที่ออกแบบ Theme LGBTQ เอามันตั้งแต่ทาสีพื้นถนนให้เป็นสีรุ้ง เปลี่ยนนางรำที่คอยรับนักท่องเที่ยวที่สนามบินเป็นคาบาเร่ต์ หรือปีแห่งการผ่าตัดแปลงเพศกับ รพ ที่เข้าร่วมโครงการโดยรัฐสนุนอยู่เบื้องหลัง และการจดทำเบียนสมรส หรือเปิดทำเนียบรัฐบาลจัดงานแต่งงานกันไปเลย
ทำแบบนี้ครับ มันถึงจะเป็นข่าวเป็นกระแสไปทั่วโลกแล้วดึงดูดให้คนทั้งโลกหันมาที่ประเทศไทยอีกครั้ง ไม่ต้องไปกลัวคู่แข่งอย่างเวียดนาม หรือที่ใดในโลก เพียงแต่หลุดจากกรอบคิดเรื่องการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบเดิมๆ หรือการทำโครงการขายความเป็นไทย โดยการเหมาเครื่องบินแล้วไปออกบูทนิทรรศการในต่างประเทศ แบบนั้นสิ้นเปลือง เสียเวลา และได้ผลน้อย
อ่านจบแล้ว เชิญทัวร์ลงได้เลย