นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า #ประชาชนต้องรู้ทันเงินดิจิทัลนะครับ
มีประชาชนจำนวนไม่น้อย ได้ยินนายเศรษฐาพูดว่า จะนำแอปเป๋าตังมาใช้ จึงคิดว่า เมื่อขายของแล้ว จะได้เงินเข้าบัญชีเหมือนรัฐบาลลุงตู่
ผมต้องขอย้ำนะครับว่า เขาพูดว่าจะเอาแอปเป๋าตังมาใช้ก็จริง แต่เขาเอามาใช้ร่วมกับบล็อกเชน ไม่ใช่เอามาใช้แล้ว จะมีเงินเข้าบัญชีเหมือนรัฐบาลลุงตู่ อย่าเข้าใจผิดครับ
เงินของรัฐบาลเศรษฐา ที่เขาให้มาหรือร้านค้าขายของได้นั้น เป็นเงินดิจิทัล เป็นเงินบาทชั้นสอง ไม่ใช่เงินชั้นหนึ่ง(เงินสดจริงๆ) เพราะไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฏหมาย และห้ามซื้อสินค้าอีกนับสิบรายการ จะกลายเป็นเงินชั้นหนึ่ง(เงินสด) ต้องรอแลก หลังซื้อขายหกเดือนไปแล้ว
ส่วนที่นายเศรษฐาพูดว่า ร้านค้าย่อย ตลาดนัด แผงลอย เข้าร่วมได้ ไม่ต้องมีระบบแวต7เปอร์เซนต์ก็ร่วมได้นั้น ต้องฟังให้หมด เนื่องจากแม้"ขายของได้ก็ขึ้นเงินไม่ได้" เพราะร้านย่อยไม่ได้อยู่ในระบบฐานภาษีที่ต้องเสียภาษี จึงขึ้นเงินไม่ได้ ที่สำคัญร้านใดแม้อยู่ในระบบภาษี ต้องรออีก6เดือนจึงขึ้นเงินได้ เข้าใจตรงกันนะครับ
สิ่งที่ยิ่งสับสนไปใหญ่คือ นายเศรษฐาพูดว่า เงินดิจิทัลนี้ จะเริ่มแจกพฤษภาคมปี2567 และจะขยายจนหมดโครงการเมษายน2568 รวม1ปี ล่าสุดนายจุลพันธ์ กับพูดคนละอย่าง
เขาบอกว่า รัฐบาลก็จะสร้างกลไกขึ้นมา เพื่อทำให้ดิจิทัลวอลเล็ต หมุนอยู่ในระบบให้นานขึ้น หมุนไปเรื่อยๆ ในระบบ 2-3 ปีตามเป้าหมายรัฐบาล เท่ากับว่า ประเทศไทยจะมีเงินบาทสองประเภท อยู่ในระบบนานร่วมสามปี ผมไม่มั่นว่านักลงทุนต่างชาติ จะเชื่อมั่นต่อค่าเงินบาทหรือไม่
สุดท้ายลึกๆแล้ว ผมคิดว่าโครงการเงินดิจิทัล ของรัฐบาลเศรษฐาคงล่ม เพราะถ้าเขาอยากให้เกิดจริงๆ เขาควรออกพรก.กู้เงิน ไม่ใช่มาดึงเกมแล้วออกเป็นพรบ.ซึ่งใช้เวลานาน