นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ว่า วาระการประชุมวันนี้มีเรื่องที่น่าสนใจ คือ การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างสำนักงานกองทุนหมู่บ้านฯ และกรมปศุสัตว์ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะจะเป็นการส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ รวมถึงให้สอดคล้องกับที่ท่านเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้กรุณาช่วยเจรจาการส่งออกโคให้กับซาอุดีอาระเบียและจีน ซึ่งจะทำให้สมาชิกที่เลี้ยงโค สามารถส่งออกไปต่างประเทศได้ ดังนั้น กองทุนหมู่บ้านฯ ต้องตื่นตัว และเร่งส่งเสริมสร้างความพร้อมให้กับสมาชิก
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้ทำโครงการเลี้ยงวัวนำร่องที่จังหวัดสุโขทัย โดยให้สมาชิกจำนวน 1,000 ครอบครัว ซื้อโค ครอบครัวละ 2 ตัว รวมเป็น 2,000 ตัว ซึ่งปัจจุบันโคได้ออกลูกมาแล้วล่าสุดจำนวน 1,880 ตัว จึงถือว่าเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จ จึงมีการเสนอโครงการของกองทุนหมู่บ้านฯ ต่อ คือ "โคเงินล้าน" นำร่องระยะที่ 1 ให้แก่ 400 ครอบครัว ครอบครัวละ 50,000 บาท เพื่อให้เลี้ยงวัวสายพันธุ์ดี เช่น วัวโกเบ วัวบราห์มัน วัวทาจิมะ โดยให้ยกระดับเป็นการเลี้ยงแบบเกรดพรีเมี่ยม เพราะวัวไทย มีราคา 2-3 หมื่นบาท แต่วัวโกเบ มีราคาสูงถึง 2 แสนบาท จะช่วยทำให้สมาชิกกองทุนฯ สามารถมีเงินใช้หนี้ได้ ส่วนวัวกีฬา ผมก็อยากให้มีการทำลักษณะคอนแทรคฟาร์มมิ่ง เพื่อผู้เลี้ยงจะได้มีที่รับซื้อ และประกันราคาชัดเจน ดังนั้น เราควรสนับสนุนผู้ประกอบการที่จะเข้ามาทำคอนแทรคฟาร์มมิ่งด้วย
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ถ้าสมาชิกกองทุนใดคิดไม่ออกว่าจะส่งเสริมอาชีพด้านไหน ก็ให้นึกถึงเรื่องวัวก่อน เพราะตนมองว่า การแก้ปัญหาความยากจนให้กับคนในชนบทได้ ต้องเลี้ยงปศุสัตว์ เนื่องจากโค มีการเติบโตที่เร็ว ทันดอกเบี้ยเงินกู้ ทำให้สมาชิกจะมีเงินมาใช้หนี้ได้ ซึ่งตนขอมอบให้กองทุนหมู่บ้านฯ ยึดเป็นแนวทางในการส่งเสริมอาชีพให้กับสมาชิก จากเริ่มต้นเลี้ยงโค ก็อาจจะเดินหน้าส่งเสริมเลี้ยงปูไข่ต่อ เพราะมีราคาที่สูงเช่นกัน โดยกองทุนหมู่บ้านฯ ต้องเน้นการสร้างอาชีพ เพื่อให้ประชาชนไม่เป็นหนี้อีกต่อไป ซึ่งตรงกับนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ ให้เกิดการสร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง โดยตรงกับงานของกองทุนหมู่บ้านฯ ที่ต้องเข้าไปสนับสนุนในเรื่องการลงทะเบียน จึงต้องเตรียมสร้างการรับรู้ และพัฒนาระบบการละเบียนให้พร้อม