รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า เรื่องการกินยาต้านไวรัสแล้วดื่มเหล้าหรือมีพฤติกรรมเสี่ยงด้วยนั้น ต้องระวังให้ดี
เพราะ
หนึ่ง งานวิจัยทั่วโลกชี้ให้เห็นว่า ติดเชื้อเอชไอวี และกินยาต้านไวรัสอยู่ หากมีการติดเหล้าด้วย จะมีโอกาสลืมกินยาได้มากขึ้น และนำไปสู่การดื้อยาในที่สุด
สอง การดื่มเหล้ามากๆ ทำให้ตับทำงานแย่ลงได้ และส่งผลต่อการทำลายหรือขับยาต่างๆ ได้ นอกจากนี้ตับที่ทำงานแย่ลงนั้น อาจมีปัญหาอื่นตามมา เช่น ไขมันสูง ซึ่งยาต้านไวรัสบางกลุ่มก็มีผลต่อการทำให้เกิดปัญหาไขมันสูงอยู่แล้วด้วย
สาม หากกินยาต้านไวรัสจนกดไวรัสได้ดีก็ตาม แต่หากไม่ป้องกันตัว มีพฤติกรรมเสี่ยง มีหลายคู่นอน ยิ่งมากครั้ง ยิ่งมีโอกาสติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เช่น หนองใน ซิฟิลิส ตับอักเสบบี ตับอักเสบซี ฯลฯ ซึ่งมีโอกาสส่งผลให้เอชไววีแบ่งตัวเร็วขึ้น จำนวนมากขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่เชื้อได้ด้วย นอกจากนี้ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีอยู่แล้ว ยังอาจมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อเอชไอวีสายพันธุ์อื่นๆ เพิ่มเข้าสู่ร่างกายได้อีกด้วย ที่เราเรียกภาวะนี้ว่า "Superinfection"
ดังนั้น การดูแลตนเองอย่างดี ใส่ใจสุขภาพ ลดพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ กินยาและติดตามการรักษาสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถที่จะมีสุขภาพแข็งแรง ศึกษาเล่าเรียน และทำมาหากินได้ไปในระยะยาว
เอชไอวีนั้น เป็นโรคติดเชื้อที่รักษาได้ แม้จะไม่หายขาด แต่ก็จัดการได้เหมือนกับการรักษาโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น เบาหวาน ความดันสูง ฯลฯ
ขอให้ดูแลตนเองให้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องพฤติกรรมเสี่ยงครับ