นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมหารือการกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษ ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานศาลยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นต้น
จากการประชุมร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยรับฟังความเห็นอย่างรอบด้าน ทั้งข้อมูลวิชาการทางการแพทย์ ที่มีผู้แทนจากกรมการแพทย์ กรมสุขภาพจิต สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มาให้รายละเอียดเกี่ยวกับองค์ประกอบของยาและผลกระทบจากขนาดของยา และผลกระทบในมิติอื่นๆ เช่น ผู้บังคับใช้กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม มิติต่อสังคมและชุมชน ที่จะเกิดจากกำหนดจำนวนยาเสพติด ระบบจัดการทางกฎหมาย การบำบัด กระบวนการยุติธรรม และระบบราชทัณฑ์ โดยเบื้องต้นมีความเห็นตรงกันว่า ในส่วนของเมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในการครอบครองเพื่อใช้เสพ ควรกำหนดไว้ไม่เกิน 5 เม็ด
นายแพทย์กิตติศักดิ์ กล่าวต่อว่า การกำหนดปริมาณไว้ที่ 5 เม็ด จะเป็นการให้โอกาสกับผู้ที่ครอบครองตามเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ให้สันนิษฐานไว้ใช้ในการครอบครองเพื่อเสพ ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ง่ายขึ้น ในการแยกแยะเบื้องต้นว่าเป็นผู้เสพ ซึ่งหากสมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษาจะไม่ถูกดำเนินคดี แต่หากไม่สมัครใจบำบัด ก็จะดำเนินคดีส่งศาลเพื่อบังคับบำบัดต่อไป อย่างไรก็ตาม แม้จะครอบครองต่ำกว่า 5 เม็ด แต่หากสืบสวนพบพฤติกรรมว่ามีการค้า ก็จะมีความผิดต้องถูกดำเนินคดี เพราะไม่ถือว่าเป็นผู้เสพ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้ ตามระเบียบของการออกร่างกฎกระทรวง จะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นและประชาพิจารณ์ก่อน จากนั้นจึงจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี โดยจะมีการพิจารณาปริมาณยาเสพติดอื่นๆ ที่ให้สันนิษฐานว่าเป็นผู้เสพไว้ในร่างกฎกระทรวงด้วย