นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากนโยบายเปิดประเทศ รวมถึงการเดินทางพบปะกับนักลงทุนชาวต่างชาติของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รวมถึงมาตรการเชิญชวนนักลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยของรัฐบาล สร้างความเชื่อมันต่อนักลงทุน ก่อให้เกิดการลงทุน สร้างงานสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ เดือนกันยายน 2566 มีนักลงทุนต่างชาติจำนวน 59 ราย เข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทยผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 22 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 37 ราย เงินลงทุนทั้งสิ้น 18,229 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่น จีน และฮ่องกง มีการจ้างงานคนไทย 1,219 คน รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการดูแลความปลอดภัยของก๊าซในอุตสาหกรรม องค์ความรู้เกี่ยวกับแนวคิดและการออกแบบโรงประกอบฐานล่างของรถยนต์ไฟฟ้า องค์ความรู้เกี่ยวกับเครื่องจักรกลทางการเกษตรและอุปกรณ์ต่อพ่วงทางการเกษตร และองค์ความรู้เกี่ยวกับการกลึงลานด้วยเครื่องจักรสำหรับการกลึงข้อต่อ เป็นต้น
ทั้งนี้ เดือนกันยายน 2566 มีนักลงทุนต่างชาติจำนวน 59 ราย เข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทยผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 22 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 37 ราย เงินลงทุนทั้งสิ้น 18,229 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่น จีน และฮ่องกง มีการจ้างงานคนไทย 1,219 คน รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการดูแลความปลอดภัยของก๊าซในอุตสาหกรรม องค์ความรู้เกี่ยวกับแนวคิดและการออกแบบโรงประกอบฐานล่างของรถยนต์ไฟฟ้า องค์ความรู้เกี่ยวกับเครื่องจักรกลทางการเกษตรและอุปกรณ์ต่อพ่วงทางการเกษตร และองค์ความรู้เกี่ยวกับการกลึงลานด้วยเครื่องจักรสำหรับการกลึงข้อต่อ เป็นต้น