นายปิยรัฐ จงเทพ โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ แถลงผลการประชุม กมธ. ว่า ที่ประชุม กมธ. มีการหารือในทั้งหมด 3 ประเด็น ได้แก่ 1. เรื่องแจ้งที่ประชุมทราบ 2 ประเด็น คือ การมอบหมายให้นายมานพ คีรีภูวดล รองประธานคณะ กมธ. คนที่หนึ่ง นางจุฬาลักษณ์ ขันสุธรรม กรรมาธิการ และตน เป็นตัวแทน กมธ. เข้าร่วมศึกษาดูงานปัญหาชนพื้นเมือง และผลกระทบตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ร่วมกับสมาชิกรัฐสภาอาเซียน ในวันที่ 13-16 พฤศจิกายน ที่ จ.เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน ส่วนอีกประเด็นคือ คณะ กมธ.ความมั่นคงฯ จะเดินทางเข้าพบ รมว.กลาโหม ที่ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ในวันที่ 30 ตุลาคม 2566 เวลา 09.00 น.
2. เรื่องการเข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานภาครัฐทั้ง 4 หน่วยงาน คือ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กองทัพบก และสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยเนื้อหาส่วนใหญ่ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือกันคือ ปัญหาความขัดแย้งในประเทศเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบทั้งทางตรง และทางอ้อมมายังประเทศไทย โดยข้อมูลล่าสุด ประเทศไทยต้องรองรับจำนวนผู้หนีภัยสงครามที่มากกว่า 7.5 หมื่นราย จากค่ายผู้หนีภัยทั้ง 9 แห่ง ใน 4 จังหวัด ซึ่งปัญหาใหญ่ในตอนนี้คือ ผู้ลี้ภัยต้องการเดินทางไปประเทศที่ 3 แต่ต้องได้รับการอนุมัติจากประเทศปลายทางก่อน จึงเป็นปัจจัยภายนอกที่รัฐไทยไม่สามารถตัดสินใจ ในส่วนนี้ได้ผู้ลี้ภัยบางส่วน ต้องการเป็นแรงงานในประเทศไทย แต่เนื่องจากติดเรื่องสถานะของผู้ลี้ภัย และระเบียบบางส่วนที่ไม่เอื้อต่อการรองรับแรงงานกลุ่มนี้
3. เรื่องแต่งตั้งที่ปรึกษาคณะ กมธ. ผู้เชี่ยวชาญ และนักวิชาการประจำคณะ ซึ่งในวันนี้ คณะ กมธ. มีมติตั้ง นางพวงทอง ภวัครพันธุ์ น.ส.ลลิตา หาญวงษ์ พล.ท.พงศกร รอดชมพู และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช เป็นที่ปรึกษา กมธ.