นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการหลบหนีของนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด แล้วใน 2 ประเด็น คือ ประเด็นที่ 1 ตรวจสอบว่าเป็นความบกพร่อง, ความประมาท หรือการไม่ปฏิบัติตามระเบียบราชการของเจ้าหน้าที่หรือไม่ และประเด็นที่ 2 ตรวจสอบว่าเกิดจากความประพฤติไม่ชอบ หรือเกิดจากความเอื้อประโยชน์ให้นักโทษ โดยทำเป็นขบวนการหรือไม่ ซึ่งทั้ง 2 ประเด็นจะต้องมีการสอบสวนให้รวดเร็วชัดเจนภายใน 5 วัน นับจากวันนี้ (24-28 ต.ค.) เนื่องจากนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกำชับมา โดยให้เร่งพิสูจน์ให้สังคมได้ทราบข้อเท็จจริง โดยประธานตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ เป็นผู้ใหญ่ที่มีศักยภาพที่จะทำความจริงให้ปรากฏออกมา
โดยในชั้นนี้ยังระบุไม่ได้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่เรือนจำกี่คนเข้าไปเกี่ยวข้อง ต้องพิสูจน์หาสาเหตุ และสืบสาวราวเรื่อง ไปยังตัวละครที่เกี่ยวข้อง ถ้าหากเป็นการกระทำโดยทุจริตก็ย่อมมีผู้เกี่ยวข้องหลายคน แต่ถ้าเกิดจากความประมาทอาจมีผู้เกี่ยวข้องเฉพาะกลุ่ม-เฉพาะคน
รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงสาเหตุที่ต้องส่งตัวเสี่ยแป้ง ไปรักษายังโรงพยาบาลภายนอก ว่า เสี่ยแป้ง มีอาการฟันแตก และทางเรือนจำไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง จึงนัดหมายทันตแพทย์เพื่อตรวจรักษา แต่ปรากฏว่าในวันนัด หมอฟันลาป่วย จึงจำเป็นต้องเลื่อนนัดออกไปก่อน แต่ระหว่างจะคุมตัวเสี่ยแป้ง กลับมายังเรือนจำ เสี่ยแป้ง เกิดอาการวูบ ขาอ่อนแรง แพทย์จึงทำตัวส่งห้องฉุกเฉินและแอดมิดในโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา กระทั่ง เวลา 01.00 น. ของวันที่ 22 ตุลาคม ได้หลบหนีจากโรงพยาบาล
ทั้งนี้ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ยังระบุว่าจะต้องตรวจสอบ ว่าการที่ เสี่ยแป้ง จู่ๆ มีอาการวูบความดันต่ำ ขาอ่อนแรงกะทันหัน ทำให้ต้องนอนแอดมิดในโรงพยาบาลเป็นการแสร้งทำ และสร้างหลักฐานเท็จขึ้นมา เนื่องจากมีการวางแผนหลบหนีเอาไว้แล้วหรือไม่
อย่างไรก็ตาม รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ระบุว่ายังไม่ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ ว่า เสี่ยแป้ง หลบหนีออกนอกประเทศแล้ว จากข้อมูลล่าสุด พบว่า ยังหลบหนีอยู่ในจังหวัดใกล้เคียงกับจังหวัดพัทลุง ส่วนจะมีอาวุธปืนติดตัวไปด้วยหรือไม่นั้น ไม่ทราบ แต่กรณีนักโทษที่คิดจะหลบหนีก็น่าเชื่อว่าจะต้องมีอาวุธ ที่เตรียมไว้ต่อสู้กับเจ้าพนักงาน จึงกำชับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ที่ไล่ล่าให้ทำงานด้วยความรอบคอบและปลอดภัย
นายสหการณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ที่ดูแลงานมั่นคงปลอดภัย และผู้บัญชาการเรือนจำทั่วประเทศ ให้ยกระดับมาตรการดูแลผู้ต้องขังที่ออกไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลภายนอก และผู้ต้องขังที่ออกไปทำกิจกรรมภายนอกให้ดูแลอย่างรอบคอบเข้มแข็งและอยู่ในสายตา และใช้มาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดไม่ให้หลบหนีและก่อเหตุ เราจะต้องมีการยกเครื่อง มาตรการคุมเข้มผู้ต้องขังทั้งในเรือนจำและนอกเรือนจำ