นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงในประเทศอิสราเอล และได้เดินทางกลับประเทศไทยโดยมีความกังวลว่าจะไม่ได้กลับไปอิสราเอลอีก ว่า ได้สั่งการให้อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ประสานหารือกับทางการอิสราเอลเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดได้รับหนังสือแจ้งข่าวดีจากสำนักงานบริหารแรงงานต่างชาติ (Foreign Workers Administration) ของอิสราเอล ว่าได้อนุญาตให้แรงงานต่างชาติในภาคเกษตรที่เดินทางออกจากอิสราเอลโดยไม่ได้ขอวีซ่า re-entry ในช่วงเหตุความสงบที่เกิดขึ้นหลายวันที่ผ่านมานี้ ได้รับการผ่อนผันให้สามารถเดินทางกลับเข้าไปทำงานที่อิสราเอลได้ผ่านกระบวนการพิเศษ เบื้องต้นแรงงานที่ประสงค์เดินทางกลับไปทำงานสามารถแจ้งความประสงค์ได้ผ่านทางบริษัทจัดหางาน 12 แห่งของอิสราเอล
สำนักงานบริหารแรงงานต่างชาติ (Foreign Workers Administration) ของอิสราเอล แจ้งด้วยว่า เมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ หากลูกจ้างต้องการที่จะกลับมาทำงานในอิสราเอล บริษัทเอกชนจะต้องดำเนินการจัดส่งความต้องการดังกล่าวมาที่สำนักงาน Foreign Workers Administration ตามความจำเป็น
ทั้งนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยแรงงานทุกคน และให้ความสำคัญกับภารกิจการช่วยเหลือแรงงานไทยในครั้งนี้ โดยให้เป็นภารกิจเร่งด่วนที่กระทรวงแรงงานต้องติดตามอย่างใกล้ชิดและให้ความสำคัญเรื่องนี้สูงสุด ขอให้พี่น้องแรงงานไทยคลายกังวลเรื่องการกลับไปทำงานที่อิสราเอล กระทรวงแรงงานจะดำเนินการอย่างเต็มที่ในการประสานให้แรงงานไทยสามารถกลับเข้าไปทำงานที่อิสราเอลได้อีกครั้งเมื่อเหตุการณ์คลี่คลายลง ขณะเดียวกัน อิสราเอลก็ให้ความสำคัญกับการทำให้แรงงานต่างชาติเดินทางกลับมาทำงานในอิสราเอลได้อีกครั้ง โดยเฉพาะแรงงานไทยซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อภาคเกษตรกรรมของอิสราเอล และมีส่วนสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ