การประชุมวุฒิสภาวันนี้ ( 9 ต.ค.) พิจารณาเรื่องด่วน สำนักงานตำรวจแห่งชาติขออนุญาตออกหมายเรียกตัว นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา ไปทำการสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ตามมาตรา 11/7 แห่ง พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2550 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด ฉบับที่ 2 พ.ศ.2564 ในฐานะผู้ต้องหาในคดีอาญา ตามมาตรา 127 แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด และโดยมาตรา 125 วรรค 1 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติว่า ในระหว่างสมัยประชุม ห้ามมิให้จับ คุมขัง หรือหมายเรียกตัว ส.ส. หรือ ส.ว. ไปทำการสอบสวน ในฐานะที่เป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากสภาที่เป็นสมาชิก
นายอุปกิต ยืนยันความบริสุทธิ์ และพร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย แต่ได้ย้ำว่าตนเองได้ถอนชื่อออกจากกรรมการบริหารและผู้ถือหุ้น ในบริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป จำกัด ไปแล้ว จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการบริหาร อีกทั้งในระหว่างเป็นกรรมการผู้ถือหุ้นก็ดำเนินการอย่างถูกต้องมาโดยตลอด และประสงค์สละเอกสิทธิ์คุ้มครอง พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะไม่ประสงค์ให้ผู้ใดนำเรื่องดังกล่าวไปเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์วุฒิสภา และเพื่อปกป้องเกียติและศักดิ์ศรีของตนเองและครอบครัว อย่างไรก็ตาม ต้องแล้วแต่ที่ประชุม
ขณะที่ ส.ว. ส่วนใหญ่แสดงความเห็น เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อาทิ นายวิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร กล่าวว่า มาตรา 125 ของรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เอกสิทธิ์ที่ขอสละได้ เพราะเป็นเรื่องของที่ประชุมสภาฯ ที่ต้องทำหน้าที่ โดยเฉพาะเมื่อมีความจำเป็นอย่างเช่นการลงมติที่มีความก่ำกึ่ง ดังนั้นเพื่อให้สมาชิกได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ ป้องกันการถูกกลั่นแกล้ง หากต้องทำหน้าที่เป็นปฏิปักษ์กับหน่วยงานราชการ หรือกระทบต่อเอกชนในระหว่างสมัยประชุม จึงต้องมีกฎหมายไว้ปกป้องการทำหน้าที่ให้มีความสมบูรณ์ พร้อมกับเรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงว่านายอุปกิตมีความผิดร้ายแรงถึงขั้นต้องออกหมายเรียกเลยหรือไม่ และหากมีความผิดจริง อย่างที่ปรากฏในเอกสาร ขอให้พนักงานสอบสวนเข้ามาชี้แจงด้วยตัวเอง ในที่ประชุมวุฒิสภา หากมีความชัดเจนตามหมายเรียก เชื่อว่า ส.ว. ก็พร้อมที่จะส่งตัวนายอุปกิตตามกระบวนการของกฎหมาย
ทั้งนี้ ในที่สุด ส.ว. มีมติไม่อนุญาต ให้ส่งตัวนายอุปกิต ให้พนักงานสอบสวนไปดำเนินคดี 175 ต่อ 7 เสียง งดออกเสียง 10 เสียง