xs
xsm
sm
md
lg

อดีตผู้บริหาร กฟผ.เรียกร้อง รมว.พลังงาน แต่งตั้งผู้ว่าฯ คนใหม่-แก้ปัญหาค่าไฟแพง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อดีตผู้บริหารการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นำโดย นายพิเชษฐ์ ชูชื่น , นายบุญเลิศ มงคลวิทย์ , นายธรรมยุทธ สุทธิวิชา และ นายวัชระ เพชรทอง ยื่นหนังสือต่อ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่า ในนามกลุ่มอดีตผู้ปฏิบัติงาน และภาคประชาชน ได้ทราบข่าวปัญหาในการแต่งตั้งผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งปรเทศไทย (กฟผ.) และปัญหาค่าไฟฟ้าแพงในขณะนี้ซึ่งอยู่ระหว่างการแก้ไขมาโดยตลอดตามที่ทราบกันอยู่แล้วนั้น

ในส่วนของการแต่งตั้งผู้ว่าการฯ กฟผ. นั้น ได้ทราบว่าจะมีการสรรหาผู้ว่าการ กฟผ. ใหม่ ซึ่งขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงว่าการสรรหาผู้ว่าการ กฟผ. ซึ่งคณะกรรมการ กฟผ. ได้เห็นชอบให้ นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ เป็นผู้ว่าการ กฟผ. เป็นคนต่อไปแล้วนั้นเป็นการดำเนินการด้วยความถูกต้องและชอบธรรม โดยคณะกรรมการสรรหา กฟผ. และคณะกรรมการ กฟผ. ก็ดีต่างก็ยึดถือแนวทางปฏิบัติเป็นไปตามกฎระเบียบ ข้อบังคับ และกฎหมาย ในทุกประการ

นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนและการยอมรับทั้งจากพนักงาน กฟผ. และสหภาพแรงงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเช่นกัน และหลังจากนั้น คณะกรรมการ กฟผ. ได้สรุปผลการคัดเลือกและนำเสนอไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในขณะนั้น คือ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ เพื่อนำเสนอ ครม. เพื่อพิจารณาเห็นชอบต่อไป และเรื่องดังกล่าวได้อยู่ในคณะรัฐมนตรี(ครม.) เรียบร้อยแล้วเพื่อรอนำเข้า ครม.

แต่ในช่วงเวลาดังกล่าวได้เกิดเหตุการณ์ยุบสภาไปก่อนจึงทำให้ ครม. ขณะนั้นไม่สามารถพิจารณาให้ความเห็นชอบหรืออนุมัติได้ เนื่องจากเป็นรัฐบาลรักษาการ จึงได้พิจารณานำเสนอไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จำนวน 2 ครั้ง ตามคำแนะนำของ ครม. และรัฐมนตรีในขณะนั้น แต่ กกต. ก็ยังคงยืนยันให้ไปนำเสนอ ครม. ของรัฐบาลชุดใหม่เป็นผู้พิจารณา ดังนั้นเรื่องจึงยังคงอยู่ที่รัฐมนตรีพลังงาน
ดังนั้นจึงเป็นความชอบธรรมที่รัฐมนตรีพลังงานนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค สามารถที่จะพิจารณาดำเนินการนำเสนอต่อ ครม.ใหม่ได้ เพราะเป็นการสรรหามาโดยชอบธรรมแล้ว และหากมีการสรรหาผู้ว่าการ กฟผ.ใหม่ ก็จะไม่เป็นธรรมและส่งผลเสียหายต่อผู้ถูกคัดเลือกและเป็นข้อสงสัยต่อสังคมอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล

ประกอบกับการจะเปลี่ยนแปลงให้มีการสรรหาผู้ว่าการ กฟผ.ใหม่นั้น จะส่งผลต่อคำครหานินทาจากสังคมได้ว่ามีใบสั่งจากทุนใหญ่ด้านพลังงานมากดดันรัฐบาลตามข่าวที่ทราบกันอยู่แล้ว
พวกเราจึงใคร่ขอความอนุเคราะห์ท่านรัฐมนตรีฯ พิจารณานำเสนอผลกการคัดเลือกผู้ว่าการ กฟผ. คนที่ 16 คือนายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ เข้า ครม. เพื่อเห็นชอบอนุมัติแต่งตั้งเป็นผู้ว่าการ กฟผ. ต่อไป

อย่างไรก็ดี หากมีการสรรหาผู้ว่าการ กฟผ.ใหม่ และไม่ใช่ นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ แน่นอนว่าสังคมต่างทราบอย่างกว้างขวางจากสื่อต่างๆ อยู่แล้วว่าใครจะได้รับการคัดเลือก ย่อมจะไม่สง่างามและเป็นผลดีต่อการบริหารงานใน กฟผ. จะทำให้เกิดความไม่พอใจ และมีความขัดแย้งอันยาวนานใน กฟผ.และอาจจะไม่เป็นผลดีต่อการสนับสนุนการดำเนินงานและบริหารงานตามนโยบายต่างๆให้กับทางกระทรวงพลังงานหรือรัฐมนตรีอย่างต็มที่ก็เป็นได้

สำหรับในเรื่องค่าไฟฟ้าแพงนั้นในความเป็นจริงต้นกำเนิดเกิดมาจากในอดีตภาครัฐและกระทรวงพลังงานเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามามีบทบาทและกำหนดนโยบายในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้ามากเกินไปโดยขาดการสร้างความสมสมดุลย์ด้าน Demand และ Supply จะเห็นจากปัจจุบัน Supply มีมากกว่า Demand เกินครึ่งหนึ่ง
อีกทั้งยังกำหนดให้ กฟผ. ทำสัญญาจ่ายค่าความพร้อมและอื่นๆ ตลอดจนปล่อยปละละเลยกำหนดนโยบายให้ใช้พลังงานหมุนเวียนมากเกินไปโดยอ้างปัญหาโลกร้อนและไปลงนามสัญญาร่วมกับประเทศต่างๆ โดยไม่ดูข้อจำกักต่างๆ ภายในประเทศ จนเป็นเหตุให้เกิดข้อครหารัฐบาลเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนพลังงานจากสื่อต่างๆ ที่ออกมา
และจากนโยบายที่ท่านรัฐมนตรีประกาศลดค่าไฟตามข่าวที่ออกมาเป็นเรื่องที่ดีแต่เป็นการแก้ไขปัญหาปลายเหตุ ปัญหาจะไม่สามารถถูกแก้ได้อย่างยั่งยืนแน่นอน

ดังนั้นการแก้ปัญหาค่าไฟแพงนั้นควรแก้ไขที่ต้นเหตุคือการแก้ไขสัญญาที่รัฐเสียเปรีบกับเอกชนใหม่ เช่นค่าความพร้อมจ่าย เป็นต้น แก้ไขสัญญาให้เป็นประโยชน์ต่อรัฐและประชาชนสำหรับรายใหม่ สร้างความสมดุลย์ Demand และ Supply อย่างสมเหตุสมผล
เปิดเสรีการนำเข้าเชื้อเพลิง GAS (LNG) เพื่อให้เกิดการแข่งขันจะทำให้ค่าไฟฟ้าถูกลง กำหนดให้ภาคเอกชนสามารถขอใช้ท่อ Gas จาก ปตท. ได้โดยไม่มีเงื่อนไข โดยการ
สนับสนุนจากรัฐบาล ควรให้ กฟผ.เป็นองค์กรหลักในการนำเสนอและจัดทำแผน PDP เพื่อนำเสนอรัฐบาลได้อย่างถูกต้อง