ทางการคิวบาออกแถลงการณ์เตือนผ่านทางสถานีโทรทัศน์เมื่อคืนวันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา คาดว่าไฟฟ้าจะดับเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากการขาดแคลนเชื้อเพลิง ซึ่งยิ่งทำให้สถานการณ์ของประเทศงย่ำแย่ลง ในขณะที่กำลังรับมือกับปัญหาการขาดแคลนอาหารและยา
รัฐบาลท้องถิ่นของคิวบาเริ่มประกาศข้อจำกัดการใช้ไฟฟ้าของบริษัทและหน่วยงานต่างๆ ของรัฐแล้ว รวมถึงเลื่อนการแข่งขันกีฬา และเลื่อนการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยต่างๆ
นายบิเซนเต เด ลา โอ เลวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและเหมือง กล่าวว่า เราจะไม่มีเชื้อเพลิงในระดับที่เราจำเป็นต้องการใช้ หรือเท่ากับระดับที่เราเคยมีในช่วงหลายเดือนก่อนหน้านี้
ทางการคิวบา ระบุว่า ประชาชนอาจประสบกับปัญหาไฟฟ้าดับนานถึง 8-10 ชั่วโมงต่อวัน โดยเริ่มต้นตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่กรุงฮาวานา มักจะได้รับการงดเว้นการตัดไฟฟ้า
ข้อมูลจากรัฐบาลระบุว่า คิวบากำลังตกอยู่ในวิกฤต ซึ่งเต็มไปด้วยปัญหาต่างๆ ทั้งไฟฟ้าดับ การขาดแคลนอาหาร ยา และเชื้อเพลิง โดยวิกฤตนี้เกิดขึ้นตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อยู่ในระดับต่ำกว่าปี 2563 ที่ 8% และการผลิตสินค้าก็ต่ำกว่าระดับปี 2563 ถึง 40%
ทางการคิวบาระบุว่า การคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ คือสาเหตุส่วนใหญ่ของวิกฤตครั้งนี้ โดยการคว่ำบาตรส่งผลให้คิวบาถูกระงับเงินจากต่างประเทศ ซึ่งใช้ในการนำเข้าเชื้อเพลิง อาหาร และสิ่งจำเป็นอื่นๆ
ทั้งนี้ วิกฤตที่เกิดขึ้นในคิวบาเป็นตัวจุดชนวนให้เกิดการประท้วงทั่วประเทศเมื่อเดือนกรกฎาคม 2564 ซึ่งนับเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การปฏิวัติเมื่อปี 2502 โดยนายฟิเดล คาสโตร อดีตผู้นำประเทศผู้เลื่องชื่อ
นอกจากนี้ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ประชาชนหลายแสนคนอพยพออกนอกประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่อพยพไปยังสหรัฐฯ