นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า วันจันทร์ที่ 2 ตุลาคมนี้ มีกำหนดเข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แต่ยังไม่ทราบว่านายกรัฐมนตรีจะหารือเรื่องอะไรบ้าง
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมว่าจะเกี่ยวข้องกับกระแสข่าวเรื่องการปลดผู้ว่าฯ ธปท. หรือไม่ นายเศรษฐพุฒิ ไม่ได้ตอบคำถาม
ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวเรื่องการปลดผู้ว่าฯ ธปท. ซึ่งนายเศรษฐา ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่เคยมีความคิดเรื่องดังกล่าว
ส่วนการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ต่อปี เป็น 2.50% ต่อปี เมื่อวันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา เป็นการปรับขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป จนเข้าสู่ระดับที่เหมาะสม โดยพิจารณาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาวเงินเฟ้อต้องอยู่ในกรอบอย่างยั่งยืน และความสมดุลทางการเงิน หากการทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเป็นไปตามคาดการณ์ ก็เป็นเวลาเหมาะสมที่จะหยุดขึ้นดอกเบี้ย ถอนคันเร่ง เหมาะที่จะเหยียบเบรก แต่หากแนวโน้มข้างหน้าเปลี่ยนไปอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งมีหลายสิ่งที่คาดการณ์ไม่ได้ หากควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบไม่ได้ จะกระทบไปถึงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ขณะที่เศรษฐกิจไทยพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย หากจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาต่ำกว่าคาดการณ์ ภาคการท่องเที่ยวก็จะฟื้นตัวได้ช้า รวมทั้งความผันผวนในตลาดยังสูง ก็อาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ