คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 19-20 กันยายน 2566 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี และคาดว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งก่อนสิ้นปี ซึ่งกำหนดการประชุมในรอบต่อไปคือ วันที่ 31 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน 2566 และ วันที่ 12-13 ธันวาคม 2566
การประกาศคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้ง นับตั้งแต่ที่เฟดเริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม 2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.25%
นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด กล่าวว่า ต้องการเห็นข้อมูลที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือว่าการดำเนินนโยบายต่างๆ อยู่ในระดับที่เหมาะสม และต้องการเห็นความคืบหน้าในการควบคุมเงินเฟ้อมากกว่านี้ และต้องระวังในการจัดทำนโยบายเพิ่มเติม
สำหรับการคาดการณ์เกี่ยวกับเงินเฟ้อนั้น เฟดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปีนี้อยู่ที่ระดับ 3.7% และอยู่ที่ 2.6% และ 2.3% ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ ส่วนในปี 2569 อยู่ที่ระดับ 2.0%
นอกจากนี้ เฟดปรับลดคาดการณ์อัตราว่างงานในปีนี้สู่ระดับ 3.8% ปีหน้า และปี 2568 อยู่ที่ 4.1% ส่วนในปี 2569 อยู่ที่ระดับ 4.0% ขณะที่อัตราว่างงานระยะยาวอยู่ที่ 4.0%