xs
xsm
sm
md
lg

สถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยาเริ่มวิกฤต ระดับน้ำเพิ่มสูงต่อเนื่อง เตือน! เฝ้าระวัง-ขนของขึ้นที่สูง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยาเริ่มวิกฤต ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (21 ก.ย.) ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านจุดวัดอยู่ที่ 1,215 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 16.60 เมตร/รทก. มีปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 9.64 เมตร/รทก. ซึ่งระดับน้ำห่างจากตลิ่งอยู่ที่ 6.7 เมตร

ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการระบายน้ำผ่านเขื่อนอยู่ที่ 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งส่งผลทำให้ที่สถานีวัดน้ำ C.3 บ้านบางพุทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่านจุดวัดอยู่ที่ 722 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

นายวิชัย ผันประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักงานชลประทานที่ 12 เปิดเผย สำหรับสถานการณ์ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีร่องมรสุมและฝนตกบริเวณภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคเหนือตอนล่างด้วย มีฝนตกบริเวณเหนือเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ ทำให้มีปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนเพิ่มขึ้นทั้ง 4 เขื่อนประมาณ 1,500 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยปริมาณน้ำใช้การในวันนี้อยู่ที่ 5,100 ล้านลูกบาศก์เมตร

สำหรับปริมาณฝนที่ตกท้ายเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ ลงมาถึงจังหวัดชัยนาท เป็นปริมาณน้ำหลาก ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาเขื่อนเจ้าพระยาระบายอยู่ที่ 80 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ล่าสุดมีการระบายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะปริมาณน้ำหลากเพิ่มขึ้น ส่วนสถานการณ์น้ำท่าในแม่น้ำเจ้าพระยามีแนวโน้มสูงขึ้นเช่นกัน แนวโน้มคาดการณ์ว่า 3 วันข้างหน้า ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1,235 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ดังนั้น ในส่วนของสำนักงานชลประทานที่ 12 มีหนังสือแจ้งเตือนการระบายท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ฉบับที่ 1 ระหว่าง 300-500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และฉบับที่ 2 เมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา แจ้งเตือนระบาย 500-700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และทางกรมชลประทาน ได้ออกหนังสือแจ้งเตือนการระบายท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มสูงขึ้นเป็น 700-1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที