เพจไทยคู่ฟ้า โพสต์ระบุว่า กระทรวงยุติธรรมเผยการกู้ยืมเงินกว่า 2,000 บาทขึ้นไป ต้องมีหลักฐานการกู้ยืมเงิน “เป็นหนังสือ” พร้อมลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญ จึงจะ “ฟ้องร้องบังคับคดีกันได้” ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคหนึ่ง
นอกจากนี้ มาตรา 213 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เจ้าหนี้สามารถยื่นฟ้องต่อศาลให้มีคำสั่งบังคับให้ลูกหนี้คืนเงินให้ได้
สำหรับกรณี “ที่มีการฟ้องร้องต่อศาลเกิดขึ้นแล้ว” แต่ลูกหนี้ยังไม่ยอมชำระเงินคืนตามตกลง อีกทั้งยังซ่อนเร้น ขาย หรือโอนย้ายทรัพย์สินของตัวเองไปให้บุคคลอื่น เพื่อเลี่ยงการจ่ายหนี้ อาจมีความรับผิดทางอาญา มาตรา 350 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยการฟ้องศาลเพื่อเรียกเงินคืนตามสัญญากู้ยืม “มีอายุความ 10 ปี” นับแต่วันที่ถึงกำหนดชำระเงินกู้ยืมคืน แต่หากในสัญญากู้ยืมมีการตกลงกำหนดชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยแบบเป็นงวดๆ กรณีนี้ จะมีอายุความเพียง 5 ปี