นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเอาจริงและแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระชาติจะต้องลดลงให้ได้ภายใน 1 ปี ว่า ในหลักการเห็นด้วยที่นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญต่อปัญหายาเสพติด ต้องติดตามดูว่าจะในภาคปฏิบัติ จะทำอย่างไร ซึ่งต้องยอมรับว่าขณะนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน เพราะทุกพื้นที่มีการแพร่ระบาดหาซื้อกันอย่างง่ายดายเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ในแต่ละพื้นที่จะทราบดี
นายราเมศ กล่าวต่อว่า อยากให้นายกรัฐมนตรีรวบรวมสภาพปัญหาและข้อเท็จจริงในทุกจังหวัดเพื่อการวางยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน การปราบปรามก็เป็นส่วนสำคัญ แต่แผนการป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดก็สำคัญไม่น้อยกว่ากัน ตลอดถึงการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด
การที่นายกรัฐมนตรีตั้งเป้า 1 ปี ตนคิดว่าความสำคัญของเรื่องนี้คือการตั้งใจปฏิบัติงานสำคัญกว่า การต้องยึดหลักกฎหมายในการปราบปราม อย่าใช้นโยบายสงสัยใครแล้วฆ่าทิ้ง อย่าใช้วิธีการฆ่าตัดตอน อยากให้นายกรัฐมนตรีได้ศึกษา รายงานของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบ ศึกษา และวิเคราะห์การกำหนดนโยบายปราบปรามยาเสพติดให้โทษและการนำนโยบายไปปฏิบัติจนเกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ชื่อเสียง และทรัพย์สินของประชาชน (คตน.) จำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 2,500 ศพ ที่เป็นผลเกี่ยวเนื่องกับนโยบายปราบปรามยาเสพติด ปี 2546 ก็จะเห็นบทเรียนสำคัญ
นายราเมศ กล่าวว่า เชื่อว่าทุกคนคิดเช่นกันว่าไม่อยากให้ใช้ นโยบายปราบปรามยาเสพติดรัฐบาลทักษิณโมเดลที่ไม่ได้ยึดหลักสิทธิมนุษยชน ยังเป็นคำถามที่อยู่ในใจของครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบทุกคนจนถึงทุกวันนี้