xs
xsm
sm
md
lg

สมาคมโรงสีฯ เสนอพาณิชย์ใช้มาตรการชะลอขายช่วงผลผลิตล้นตลาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายรังสรรค์ สบายเมือง นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่า สถานการณ์ข้าวเวลานี้ถือว่าราคายังดีอยู่ โดยข้าวขาว ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 20.50 บาท จากข้าวเปลือกเจ้าที่ราคาตันละ 12,000-13,000 บาท สูงกว่าราคาในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ประมาณตันละ 8,000-9,000 บาท

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ที่ข้าวนาปีของเกษตรกรจะเริ่มเก็บเกี่ยว อยากให้รัฐบาลยังคงใช้มาตรการชะลอขาย และชดเชยอัตราดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการที่มีการรับซื้อข้าวจากเกษตรกร โดยให้เพิ่มการชดเชยอัตราดอกเบี้ยจากร้อยละ 3 เป็นร้อยละ 4 เนื่องจากสถานการณ์ดอกเบี้ยเวลานี้อยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งทางสมาคมฯ เห็นว่านโยบายในส่วนที่จะให้เกษตรกรชะลอขาย ยังคงเป็นนโยบายที่ดี เพียงพอที่จะทำให้สถานการณ์ราคาข้าวของเกษตรกรไม่ตกต่ำได้

ทั้งนี้ ภาคเอกชนมองว่าประเทศไทยผลผลิตข้าวจะไม่ขาดแคลน แม้บางพื้นที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ผลผลิตลดลงประมาณร้อยละ 10 หรือคิดเป็นจำนวนข้าวเปลือกที่ลดลง 6-7 แสนตัน จากผลผลิตทั้งหมดประมาณ 7 ล้านตันข้าวเปลือก ดังนั้น มาตรการลดค่ากระแสไฟฟ้าและราคาน้ำมันของรัฐบาลนั้น ดีต่อต้นทุนการผลิตข้าวของโรงสี เนื่องจากไฟฟ้าเป็นต้นทุนหลัก คิดเป็นสัดส่วนอยู่ที่ประมาณร้อยละ 40

นอกจากนี้ ในช่วงบ่าย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังได้มีการจัดประชุมหารือร่วมกับผู้แทนของผู้ประกอบการ SMEs และผู้ประกอบการรายย่อย 14 หน่วยงาน ประกอบด้วย สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย ชมรมทายาทห้างค้าปลีก-ค้าส่ง แห่งประเทศไทย สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย สมาคมการค้าบิสคลับไทย สมาคมการค้าส่งเสริมธุรกิจภาคกลาง สมาคมการค้าตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรไทย สมาคมตลาดสดไทย สมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ เครือข่ายธุรกิจ Biz Club Thailand วิสาหกิจชุมชนโอทอป คอมเพล็กซ์ พุแค สระบุรี สมาคมผู้ประกอบการร้านอาหาร สมาคมร้านขายยา และสมาคมการค้าและบริการสุขภาพผู้สูงอายุไทย

ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เน้นย้ำว่า หากเรื่องใดเป็นปัญหาของผู้ประกอบการและประชาชนจะเร่งแก้ไขโดยด่วน อาทิ นโยบาย "ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส" เน้นการรดน้ำที่รากดูแลคนตัวเล็ก พร้อมเตรียมลุยดูแลปากท้อง ค่าครองชีพให้กับประชาชน การดูแลราคาสินค้า ที่จะต้องจัดการให้เหมาะสม และยึดหลักผู้ประกอบการต้องอยู่ได้ ให้เกิดความสมดุลอย่างเป็นธรรมได้ต่อไป